เช็คลิสต์ 10 ไอเท็มที่ต้องมี แพคกระเป๋าไปเรียนต่อทั้งทีห้ามลืม

จัดกระเป๋าไปเรียนต่อ น้อง ๆ หลาย ๆ คนอาจจะนึกเอาไว้ว่าจะเป็นสิ่งที่ใกล้ ๆ วันบินแล้วค่อยทำใช่ไหมคะ 😆

แต่จริง ๆ แล้วบอกเลยว่าการจัดกระเป๋าก็สำคัญไม่แพ้การเตรียมเอกสารเลยน้า ✨

เพราะว่าสิ่งของที่เราจะต้องเอาใส่กระเป๋าไปเรียนจะเป็นไอเท็มที่น้อง ๆ ใช้ในช่วงแรกในการปรับตัวในที่ใหม่

ซึ่งหากช่วงแรก ๆ เราลืมเอาของบางอย่างไปแล้วยังไม่รู้จักแหล่งห้างใกล้หอที่จะซื้อได้นี่แย่เลย 😣

.

หากพร้อมแล้วไปเช็คลิสต์กันเลย 🥳

1.ปลั๊กไฟแบบสากล

สำคัญมาก!! หากน้อง ๆ จะไปที่ต่างประเทศสิ่งที่จะต้องพบเจออย่างแน่นอนนั่นก็คือ “การใช้ปลั๊กที่ไม่เหมือนที่ไทย”

เพราะระบบไฟและช่องปลั๊กในแต่ละประเทศ ก็อาจมีความแตกต่างกันไปค่ะ เพราะฉะนั้นน้อง ๆ

ควรเตรียมปลั๊กไฟสากลไปด้วยนะคะ เพื่อที่จะได้ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า สายชาร์จ ที่เราเตรียมไปได้แบบไม่มีสะดุดนะคะ 🥳

.

2.เสื้อผ้า

อาจจะดูเป็นไอเท็มที่ใคร ๆ ก็คิดว่า “ไม่ลืมแน่นอน” แต่! ประเทศที่เราไปอาจมีสภาพอากาศที่ไม่เหมาะกับเสื้อผ้า

ที่เราใส่ที่ประเทศไทยได้นะคะ 😆 ทางที่ดีน้อง ๆ ลองเช็คสภาพอากาศของภูมิประเทศที่เรากำลังจะไปในช่วงนั้น

แล้วลองเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะกับสภาพอากาศไปด้วยนะคะ เตรียมตัวไว้ก่อนเดี๋ยวปรับตัวไม่ทันจะเป็นหวัดเอาได้นะ 😘

.

3.รองเท้าแตะ

ไอเท็มชิ้นโปรดคู่ใจ ที่ใคร ๆ หลายคนลืม !! น้อง ๆ บางคนเตรียมรองเท้าไปอย่างดี แต่ดันลืมรองเท้าแตะซะงั้น 😅

เพราะว่าในบางวันที่น้อง ๆ อยากออกไปซื้อของหรืออยากชิว ๆ ใส่รองเท้าสบาย ๆ ก็เป็นของที่ต้องมีเลยทีเดียว

ใส่รองเท้าผ้าใบตลอดก็คงไม่ไหว แพคกระเป๋ารอบนี้อย่าลืมน้า 🥰

.

4.ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่าง ๆ ของใช้ส่วนตัว

ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่าง ๆ ของใช้ส่วนตัว เครื่องสำอาง ในช่วงแรกที่เราอาจจะยังไม่รู้จักแหล่งที่ซื้อ

พกไปด้วยก่อนสัก 1-2 ชุดเพื่อความอุ่นใจเพราะเป็นของที่เราต้องใช้ทุกวันนั่นเองค่ะ 🥰

.

5.อุปกรณ์ไอทีจำเป็น

พาวเวอร์แบงค์ หูฟัง สายชาร์ต ของไอทีจำเป็นขาดไม่ได้ !! เพราะเมื่อเราอยู่ต่างประเทศการติดต่อสื่อสาร

เป็นสิ่งสำคัญมาก หากหลงทาง หรือ ขาดการติดต่อไป อาจทำให้ครอบครัวเป็นห่วงหรือพลาดเรื่องสำคัญได้

เพราะฉะนั้นห้ามลืมเลยเชียว

.

6.กระเป๋าสะพาย เป้

กระเป๋าเป้ หรือ กระเป๋าสะพายสักใบไว้ใส่ของไปเรียนในวันชิว ๆ แบบที่ครบ จบ ไม่ต้องพกหลายใบ

เตรียมพร้อมไปเรียนขาดไม่ได้เลยไอเท็มนี้ ❗️

.

7.ยารักษาโรค

ยารักษาโรค หรือยาโรคประจำตัวที่หากน้อง ๆ คนไหนไปเรียนต่อต่างประเทศอย่าลืมเอาไปด้วยนะคะ

เพราะในบางประเทศการซื้อยาจะต้องมีสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น หรือ ไม่สามารถซื้อเองได้

ทางที่ดีเราควรเตรียมให้พร้อมเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินหรือไม่สบาย ก็จะได้ทานยาที่เตรียมมาได้นะคะ

.

8.เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนตัว

เหมือนจะไม่สำคัญ แต่ห้ามลืม !!ไดร์เป่าผม ไดร์หนีบผม ไอเท็มจัดทรงผมที่จำเป็นสุด ๆ เพราะว่าหากเราลืม

ก็ต้องไปซื้อใหม่ซึ่งไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่ ในช่วงแรกเตรียมไปดีที่สุด พร้อมออกจากบ้านทุกวันแบบจัดเซ็ตผม เป๊ะเว่อร์

.

9.แว่นตา คอนแทคเลนส์

น้อง ๆ คนไหนที่สายตาสั้น หรือ สายตายาว ห้ามลืมเชียว!! เพราะการไปเรียนต่อต้องใช้สายตาอย่างแน่นอนในการมอง

โน้ต กระดาน และการใช้ชีวิต อยู่ไทยเราอาจจะคิดว่าเดี๋ยวกลับไปเอาที่บ้านก็ได้ แต่ถ้าอยู่ที่ต่างประเทศ

ต้องซื้อใหม่เท่านั้น !! ไอเท็มสำคัญเพราะไปช่วงแรก ๆ เราอาจจะยังไม่รู้จักแหล่งที่ซื้อได้นะ

ดังนั้นควรเตรียมไปด้วยนะคะ 💯

.

10.เอกสารต่าง ๆ ตั๋วเครื่องบิน พาสปอร์ต จดหมายตอบรับจากทางมหาวิทยาลัย

ตั๋วเครื่องบิน พาสปอร์ต จดหมายตอบรับจากทางมหาวิทยาลัย อีเมลติดต่อเรื่องที่พัก เอกสารวันเปิดเรียน

และเอกสารต่างๆตรงนี้สำคัญมาก เพราะเมื่อมาถึงด่านตรวจ ทางเจ้าหน้าที่มักจะถามว่าเราเรียนที่ไหน พักที่ไหน

ระยะเวลาเท่าไหร่ยังไง ดังนั้นควรตรวจให้รอบคอบให้มากที่สุดนะคะ 😍


ไม่อยากพลาดข่าวสารหรือข้อมูลดีๆ

เกี่ยวกับการเรียนต่อ

ทำงาน หรือย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศออสเตรเลีย

นิวซีแลนด์ และแคนาดา

อย่าลืมติดตาม Eden Student Service

ให้ครบทุกช่องทางนะคะ

Facebook: https://bit.ly/3Bs4o12

Instagram: https://bit.ly/3DwVqBn

Website: https://bit.ly/3kHtP7I

Line: https://bit.ly/3t1RiV3

YouTube: https://bit.ly/38tOO8p

Twitter: https://bit.ly/3BlQ4H2

TikTok: https://bit.ly/3kFAUFT

Vaccine passport ของมันต้องมี!!

วัคซีนพาสปอร์ตคืออะไร ? คำถามยอดฮิตที่หลาย ๆ คนที่กำลังจะเดินทางในช่วงนี้ว่า

“วัคซีนพาสปอร์ต” สามารถทำได้ที่ไหนและต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง 

วันนี้ Eden Student Service รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว ครบจบในโพสต์เดียว พร้อมแล้วไปหาคำตอบกันเลยค่ะ 🧐


💥วัคซีนพาสปอร์ต (Vaccine Passport) คืออะไร ?

วัคซีนพาสปอร์ต คือ เอกสารยืนยัน หรือ ใบรับรองของผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 โดส 

เพื่อใช้เป็นเกณฑ์มาตรการในการคัดกรองผู้เดินทางเข้า-ออกของประเทศนั้น ๆ เพื่อความสะดวก

💥 หากต้องการวัคซีนพาสปอร์ต ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ?

✅หลักฐานการเดินทาง เช่น ตั๋วเครื่องบิน

✅หนังสือเดินทาง (passport) ตัวจริง

✅บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง)

✅ใบรับรองการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส ซึ่งออกให้โดยสำนักอนามัย หรือ โรงพยาบาลผู้ดูแลในการฉีดวัคซีน

เพื่อนำไปใช้ยืนยันรายละเอียด ค่าใช้จ่ายในการออกเอกสารรับรอง 50 บาท ต่อเล่ม

💥 สถานที่จัดทำวัคซีนพาสปอร์ต มีที่ไหนบ้าง ?

ผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ สามารถนำเอกสารต่าง ๆ ไปติดต่อขอทำวัคซีนพาสปอร์ตได้

โดยแนะนำให้โทรติดต่อเพื่อนัดหมายได้ดังนี้เลย

📍ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

📞โทร. 0-2134-0134

💌 อีเมล์​: [email protected]

🚗Location : https://goo.gl/maps/1UpV2h33daqVu6CFA

📍คลินิกเวชศาสตร์การเดินทาง และท่องเที่ยวสถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี

📞โทร. 0-2590-3430

💌 อีเมล์ : [email protected]

📅 เปิดให้บริการวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.30-15.00 น.

(หยุดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)

🚗Location : https://goo.gl/maps/SBS6aRmtSXaXXdHt8

📍กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค

📞โทร.0-2590-3232

📅 เปิดให้บริการวันจันทร์ และวันพุธ เวลา 09.00-12.00 น.

🚗Location : https://goo.gl/maps/vtLqZr3XNXgvt59r7

📍สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) บางเขน กทม.

📞โทร. 0-2521-0943-5

📅 เปิดให้บริการวันจันทร์-วันศุกร์ ในเวลาราชการ

(หยุดวันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขตฤกษ์)

🚗Location : https://goo.gl/maps/GSWrRkqNBjfWwSZR6


ไม่อยากพลาดข่าวสารหรือข้อมูลดีๆ

เกี่ยวกับการเรียนต่อ

ทำงาน หรือย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศออสเตรเลีย

นิวซีแลนด์ และแคนาดา

อย่าลืมติดตาม Eden Student Service

ให้ครบทุกช่องทางนะคะ

Facebook: https://bit.ly/3Bs4o12

Instagram: https://bit.ly/3DwVqBn

Website: https://bit.ly/3kHtP7I

Line: https://bit.ly/3t1RiV3

YouTube: https://bit.ly/38tOO8p

Twitter: https://bit.ly/3BlQ4H2

TikTok: https://bit.ly/3kFAUFT

✅ คลายข้อสงสัย สอบ PTE คืออะไร(ต่างกับ Ielts ยังไง) 🧐

ได้ยินกันมานานพอสมควร แต่ก็ยังไม่เข้าใจสักที ระหว่างการสอบ PTE และ IELTS แท้จริงแล้ว

มีความแตกต่างกันยังไงบ้าง? แล้วเราเหมาะกับการสอบแบบไหนมากกว่ากันนะ?

หาคำตอบพร้อมทำความเข้าใจมากขึ้นไปกับ Eden Student Service พร้อมแล้วไปอ่านกันเลยค่ะ ✈️


📍การสอบ PTE คืออะไร?

PTE ย่อมาจาก “Pearson Test of English” เป็นการสอบวัดผลทางด้านภาษาอังกฤษที่เริ่มมีขึ้นเมื่อปี 2009

โดยการพัฒนาขึ้นของ University of London ซึ่งได้รับการอนุมัติจาก GMAC

(Graduate Management Admission Council) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลการสอบ GMAT มั่นใจได้ว่า

PTE เป็นการสอบวัดผลทางด้านภาษาที่ได้มาตรฐานอย่างแน่นอนค่ะ

✅การสอบ PTE เหมาะกับการยื่นสมัครเรียนต่อต่างประเทศ หรือ เพื่อการย้ายถิ่นฐาน คะแนนสอบยังได้รับการยอมรับจาก

สถาบันการศึกษาในหลายประเทศทั้ง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนนาดา ไอร์แลนด์

สิงค์โปร์ เยอรมนี และประเทศอื่นๆ


📍PTE สอบพาร์ทอะไรบ้าง?


📍จุดเด่นของการสอบ PTE ?

✅ข้อสอบวัดระดับภาษาอังกฤษแบบ PTE จะเป็นการสอบกับคอมพิวเตอร์

✅รู้ผลสอบเร็วภายใน 2-5 วัน

✅การสอบ PTE ยังสามารถใช้ยื่นขอ Migration ในประเทศออสเตรเลียได้อีกด้วย

✅การสอบ PTE มีเทคนิคลับที่ทำให้เตรียมตัวสอบง่ายกว่าการสอบ IELTS,TOEFL

✅การตรวจข้อสอบคะแนนที่แม่นยำ ตรวจด้วยระบบ AI หรือ โปรแกรมที่ออกแบบมาสำหรับการให้คะแนน

ทักษะภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ

✅ สมัครและเลือกสอบได้สะดวกสบาย สามารถจองวันสอบล่วงหน้าได้ภายใน 48 ชั่วโมงก่อนวันสอบ


📍ค่าสมัครสอบ

ค่าสมัครสอบ PTE 6,608 บาท


📍ขั้นตอนการสมัครและสถานที่สอบ PTE

1.Create Account ที่ http://pearsonpte.com/book/

2.หลังจากสมัคร Account สำเร็จ สามารถเลือกสนามสอบได้เลยค่ะ (เฉพาะกรุงเทพเท่านั้น)

Website: http://pearsonpte.com/test-takers/test-centres/


📍สรุปความแตกต่าง PTE & IELTS

การสอบ PTE การสอบวัดผลระดับภาษารูปแบบใหม่ ซึ่งคล้ายกับ IELTS, TOEFL,TOEIC ที่เราคุ้นเคย แต่การเลือก PTE ซึ่ง

เป็นอีกทางเลือกดี ๆ สำหรับใครที่อยากศึกษาต่อในสถานบันการศึกษาในต่างประเทศ ยังสามารถใช้ยื่นขอ Migration

ในประเทศออสเตรเลียได้อีกด้วย ซึ่งเหมาะกับผู้ที่สนใจเรื่องย้ายประเทศ หรือ ย้ายถิ่นฐานนั่นเองค่ะ

ถ้าสนใจอยากเรียน PTE พี่ๆอีเดน แนะนำที่นี่เลย “PTE PLUS THAILAND”

สามารถติดต่อเข้าไปพูดคุยเรื่องการสอบ PTE ได้ที่

Line: @pteplusthailand หรือ Click >> https://lin.ee/C7JNanE


ไม่อยากพลาดข่าวสารหรือข้อมูลดีๆ

เกี่ยวกับการเรียนต่อ

ทำงาน หรือย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศออสเตรเลีย

นิวซีแลนด์ และแคนาดา

อย่าลืมติดตาม Eden Student Service

ให้ครบทุกช่องทางนะคะ

Facebook: https://bit.ly/3Bs4o12

Instagram: https://bit.ly/3DwVqBn

Website: https://bit.ly/3kHtP7I

Line: https://bit.ly/3t1RiV3

YouTube: https://bit.ly/38tOO8p

Twitter: https://bit.ly/3BlQ4H2

TikTok: https://bit.ly/3kFAUFT

ENGLISH AND BARISTA COURSE – เรียนภาษา พร้อมฝึกงานเป็น Barista ภายใน 1 เดือน !


การไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลียก็ว่าเลิศแล้ว แต่มันจะเลิศยิ่งกว่าถ้าเรียนแล้วได้งานทำติดมือมาด้วย

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ English and Barista Course คอร์สฝึกงานและเรียนภาษายอดนิยมของคนรักกาแฟ

ที่เรียนจบก็พร้อมสมัครงานได้ทันที 💯

.

English and Barista Course เป็นคอร์สเรียนภาษาอังกฤษในประเทศออสเตรเลีย ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถ

เรียนภาษาและเรียนทำกาแฟ เพื่อเตรียมตัวทำงานเป็นบาริสต้าควบคู่กันไปได้

.

ส่วนของการเรียนภาษาอังกฤษ จะต้องมีการสมัครเรียนขั้นต่ำ 12 สัปดาห์ โดยหลักสูตรภาษาอังกฤษของคอร์สนี้จะมี

ลักษณะที่ใกล้เคียงกับคอร์สประเภท General English หรือ Speaking ที่เรียนกันอยู่ทั่วไป ต่างกันตรงที่จะมีเนื้อหาที่

เน้นพัฒนาทักษะทางภาษาที่จำเป็นสำหรับบาริสต้าเสริมเข้ามา เช่น ติวเข้มเรื่องศัพท์เฉพาะ การเพิ่มทักษะการสนทนา

หรือการสื่อสารในการทำงาน เป็นต้น

.

.

ในส่วนของ Barista Course มักจะใช้เวลาเรียนเฉลี่ยอยู่ที่ 1-2 เดือน เป็นหลักสูตรภาคปฏิบัติที่เน้นการสอน และฝึกทักษะ

สำหรับการเป็นบาริสต้าแบบรอบด้าน เราจะได้เรียนเกี่ยวกับพื้นฐานทั้งหมดของการทำกาแฟทุกประเภท

เริ่มต้นตั้งแต่เรื่อง…

🥤ความแตกต่างของรสชาติ

🥤ความเข้าใจในวัตถุดิบ

🥤การฝึกใช้เครื่องทำกาแฟ

🥤coffee art

ไปจนถึงการรักษาความสะอาด และการแนะแนววิธีการหางานให้ได้งานแบบชัวร์ๆ 100 % หมดกังวลเรื่องเรียนแล้วจะแห้ว

ไม่มีงานทำแน่นอนค่ะ

.

English and Barista Course เป็นหลักสูตรการเรียนแบบกึ่งวิชาชีพ ที่มีจุดประสงค์เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้

ให้นักเรียนมีความพร้อมสำหรับการออกไปทำงานจริงหลังเรียนจบ ด้วยเนื้อหาที่อัดแน่นไปด้วยความรู้ที่จำเป็นสำหรับ

การทำงานเป็นบาริสต้าโดยตรง ทั้งในด้านของภาษาและทักษะในอาชีพ

.

ประกอบกับ Section ฝึกงาน ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนสามารถทดลองเป็นบาริสต้าในร้านกาแฟ เพื่อพัฒนาทักษะการ

ชงกาแฟของตัวเองก่อนทำงานจริง ให้นักเรียนทุกคนได้เติบโตไปเป็นบาริสต้ามืออาชีพ ที่พร้อมไปด้วยความรู้และ

ประสบการณ์จนเป็นที่ยอมรับของผู้ประกอบการทุกระดับ เรียกได้ว่าหากเรียนจบหลักสูตรนี้แล้ว จะไปสมัครงานที่ไหน

ใครก็อยากรับ

.

English and Barista Course เหมาะอย่างมากสำหรับ coffee lover ที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่า อยากเรียนไปทำงานไป

ในออสเตรเลีย โดยเฉพาะใน Melbourne ซึ่งมีสถาบันขึ้นชื่อหลายแหล่งเปิดสอนหลักสูตรนี้ โดยแต่ละแห่งก็จะมี

รายละเอียดของการเรียน และระยะเวลาในการเรียนต่างกันออกไป ตัวอย่างสถาบันชั้นนำที่เปิดสอน เช่น

Impact English College, INUS หรือ UIT เป็นต้น

.

หรือหากใครต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อ inbox 📩 เข้ามาพูดคุยสอบถามเราได้ตลอดนะคะ

Eden student service ยินดีให้บริการเสมอค่ะ

อ้างอิง

https://www.thaistudyabroad.com/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD-barista-%E0%B8%9D%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B9%88/

https://www.impactenglish.edu.au/barista-cafe-english.html


ไม่อยากพลาดข่าวสารหรือข้อมูลดีๆ

เกี่ยวกับการเรียนต่อ

ทำงาน หรือย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศออสเตรเลีย

นิวซีแลนด์ และแคนาดา

อย่าลืมติดตาม Eden Student Service

ให้ครบทุกช่องทางนะคะ

Facebook: https://bit.ly/3Bs4o12

Instagram: https://bit.ly/3DwVqBn

Website: https://bit.ly/3kHtP7I

Line: https://bit.ly/3t1RiV3

YouTube: https://bit.ly/38tOO8p

Twitter: https://bit.ly/3BlQ4H2

TikTok: https://bit.ly/3kFAUFT

รู้จัก RSA และ RCG เอกสารสำคัญที่สายงานบริการขาดไม่ได้


💸 หนึ่งในอาชีพรายได้สูง และเป็นที่สนใจของคนไทยในออสเตรเลีย คือ อาชีพด้านบริการ หรือ Hospitality โดยเฉพาะพนักงานในร้านอาหาร โรงแรม หรือคลับ บาร์ ซึ่งเป็นอาชีพที่สามารถพัฒนาทักษะจนเก่งได้ง่าย จึงไม่แปลกที่อาชีพในสายงานนี้จะถูกตาต้องใจใครหลายคน

.

สิ่งสำคัญที่ควรรู้ คือ ร้านอาหารและบาร์ในออสเตรเลียมักจะมีการเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และให้บริการ Gaming machine กันเป็นเรื่องปกติ ด้วยเหตุนี้พนักงานที่จะเข้ามาทำงานในร้านจึงจำเป็นจะต้องมีความรู้ และความรับผิดชอบมากพอในการให้บริการแอลกอฮอล์และเครื่องเกมพนันเพื่อลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมา

.

ดังนั้นสำหรับใครที่สนใจงานในสายบริการ คุณจำเป็นจะต้องมี RSA และ RCG ใบอนุญาตสำหรับการทำงาน

ที่ทำให้ชีวิตการหางานของคุณง่ายยิ่งขึ้น และวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ RSA และ RCG เพื่อเตรียมตัวสำหรับการหางานกันค่ะ 😉

.

RSA คืออะไร

𝙍𝙎𝘼 (𝙍𝙚𝙨𝙥𝙤𝙣𝙨𝙞𝙗𝙡𝙚 𝙎𝙚𝙧𝙫𝙞𝙘𝙚 𝙤𝙛 𝘼𝙡𝙘𝙤𝙝𝙤𝙡) ใบอนุญาตการเสิร์ฟแอลกอฮอล์อย่างมีความรับผิดชอบ เป็นใบอนุญาตสำหรับพนักงานที่ต้องการทำงานในร้านอาหาร ภัตตาคาร หรือบาร์ที่มีการเสิร์ฟเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

.

โดย RSA มีขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักให้พนักงานมีความรับผิดชอบในการให้เสิร์ฟแอลกอฮอล์ให้กับลูกค้า เป็นตัวช่วยสำคัญในการลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการใช้แอลกอฮอล์เกินพอดี

.

เช่น การไม่เสิร์ฟให้กับผู้ที่กำลังเมา เพื่อลดปัญหาเมาแล้วขับ การไม่เสิร์ฟให้กับเยาวชนที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์เพื่อลดอุบัติเหตุและปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เป็นต้น

.

RSA จะมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ ดังนั้นหากทำใบอนุญาตที่รัฐไหนจะสามารถทำงานได้เฉพาะรัฐนั้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทำงานข้ามรัฐได้

.

.

RCG คืออะไร❓

𝙍𝘾𝙂 (𝙍𝙚𝙨𝙥𝙤𝙣𝙨𝙞𝙗𝙡𝙚 𝘾𝙤𝙣𝙙𝙪𝙘𝙩 𝙤𝙛 𝙂𝙖𝙢𝙗𝙡𝙞𝙣𝙜) ใบอนุญาตการให้บริการการพนันอย่ามีความรับผิดชอบ เป็นใบอนุญาตสำหรับพนักงานที่ทำงานในร้านที่มีตู้เกมเสี่ยงโชค หรือ Pokie ซึ่งเป็นกิจการที่ถูกกฎหมายในประเทศออสเตรเลีย

.

เช่นเดียวกับ RSA ใบอนุญาตนี้มีขึ้นเพื่อให้พนักงานมีส่วนช่วยในการลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการให้บริการการพนัน เช่น ตรวจจับการโกง ช่วยให้พนักงานสามารถตอบคำถามหรือแนะนำการเล่นเครื่องเล่นเกมได้อย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการเล่นผิดวิธีและการใช้ความรุนแรง

.

RSA และ RCG มีความสำคัญอย่างมากกับอาชีพในสาย Hospitality เพราะว่าการดื่มแอลกอฮอล์และการพนันเป็น Lifestyle ที่ถูกกฎหมายและได้รับความนิยมชมชอบอย่างมากในประเทศออสเตรเลีย เพราะฉะนั้นหากคุณขาดใบอนุญาตคู่นี้ ก็อาจจะทำให้คุณพลาดงานรายได้ดี ๆ ไปอย่างน่าเสียดาย

.

.

ขั้นตอนในการขอ RSA และ RCG มีดังนี้…

📖 สมัครเรียนในสถาบันที่เปิดสอนเกี่ยวกับ RSA และ RCG ส่วนใหญ่จะเป็นหลักสูตรระยะสั้น ใช้เวลาเพียง 6 ชั่วโมงต่อคอร์ส ราคาอยู่ที่ราว ๆ 90 – 110 AUD

📃 เมื่อเรียนจบคุณจะได้ Certificate รับรองความเข้าใจในคอร์สที่เราลงเรียน ซึ่งจะมีอายุใช้งานประมาณ 2 เดือน

🗂 รวบรวมเอกสารสำหรับยื่นทำ Competency Card (ใบรับรองความสามารถ) ได้แก่ Certificated ยืนยันการจบหลักสูตร RSA หรือ RCG, Passport, ใบขับขี่, บัตรสุขภาพ, บัตร ATM หรือ บัตรเครดิต 

💳 เมื่อได้ Competency Card มาแล้ว คุณก็สามารถนำบัตรนี้ไปใช้สมัครงาน และทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

.

.

หากคุณตั้งเป้าไว้ว่าอยากมาทำงานเป็นพนักงานตามร้านอาหาร หรือบาร์ในออสเตรเลีย เราก็อยากแนะนำว่าให้ลองศึกษาและเตรียมทำใบอนุญาติ RSA และ RCG เผื่อเอาไว้จะเป็นการดีกับตัวเอง เพราะอย่างน้อยมันจะช่วยให้คุณมีโอกาสหางานได้ง่ายกว่าคนที่ไม่มีใบอนุญาติอย่างแน่นอน

.

และสำหรับคนที่สนใจ หรือวางแผนจะเดินทางไปทำงานด้าน Hospitality ในออสเตรเลีย แล้วสนใจอยากที่จะเรียนและเตรียมเอกสารสำหรับการทำ RCA และ RCG สามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมทาง Inbox ได้เลยค่ะ 📩

เรา Eden student service พร้อมที่จะเป็นที่ปรึกษาให้กับทุกก้าวในชีวิตการทำงานของคุณ

อ้างอิง

http://www.natui.com.au/articles/item/view/rsa-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0-rcg-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3

what-is-rsa-training

1.4 RSA and your business – Topic 1. Introduction to RSAhttp://www.hia.edu.au › s1_introduction › introduction_05

Responsible Conduct of Gambling – rcg nsw – Centre for …https://www.centrefortraining.com.au › responsible-con…


ไม่อยากพลาดข่าวสารหรือข้อมูลดีๆ

เกี่ยวกับการเรียนต่อ

ทำงาน หรือย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศออสเตรเลีย

นิวซีแลนด์ และแคนาดา

อย่าลืมติดตาม Eden Student Service

ให้ครบทุกช่องทางนะคะ

Facebook: https://bit.ly/3Bs4o12

Instagram: https://bit.ly/3DwVqBn

Website: https://bit.ly/3kHtP7I

Line: https://bit.ly/3t1RiV3

YouTube: https://bit.ly/38tOO8p

Twitter: https://bit.ly/3BlQ4H2

TikTok: https://bit.ly/3kFAUFT

Bond University มีคอร์สอะไรบ้าง ค่าเรียนเท่าไหร่

สวัสดีน้องๆกันอีกครั้งนะคะ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วพี่ๆอีเดนได้แนะนำข้อมูลเบื้องต้นของมหาวิทยาลัยที่สวยมากแห่งหนึ่ง

ใน Gold Coast ไปแล้ว Bond University วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าที่นี่เขาเปิดสอนคอร์สอะไรบ้าง

รายละเอียดเป็นอย่างไร รวมถึงค่าเรียนเท่าไหร่ พร้อมแล้ว เริ่มกันเลยยย!!


เริ่มจากระดับปริญญาตรี หรือ Undergraduate Degree กันก่อนเลย

คอร์สที่น่าสนใจมีดังนี้

  • Bachelor of Arts

ระยะเวลาการเรียน: 2 ปี (6 semesters)

ค่าเรียนต่อ 1 ภาคการเรียน: ประมาณ AUD $21,040

ผลภาษาอังกฤษ: IELTS 6.5 โดยพาร์ท Writing ต้องได้ 6.5  และพาร์ท Listening, Speaking และ Reading ต้องได้ 6.0

หรือเทียบเท่าผลของ PTE Academic ที่คะแนน 58 คะแนนขึ้นไป

  • Bachelor of Business

ระยะเวลาการเรียน: 2 ปี (6 semesters)

ค่าเรียนต่อ 1 ภาคการเรียน: ประมาณ AUD $21,040

ผลภาษาอังกฤษ: IELTS 6.5 โดยแต่ละพาร์ทต้องได้ไม่ต่ำกว่า 6.0

หรือเทียบเท่าผลของ PTE Academic ที่คะแนน 58 คะแนนขึ้นไป

  • Bachelor of Creative Arts

ระยะเวลาการเรียน: 2 ปี (6 semesters)

ค่าเรียนต่อ 1 ภาคการเรียน: ประมาณ AUD $21,040

ผลภาษาอังกฤษ: IELTS 6.5 โดยพาร์ท Writing ต้องได้ 6.5  และพาร์ท Listening, Speaking และ Reading ต้องได้ 6.0

หรือเทียบเท่าผลของ PTE Academic ที่คะแนน 58 คะแนนขึ้นไป

  • Bachelor of Design in Architecture

ระยะเวลาการเรียน: 2 ปี (6 semesters)

ค่าเรียนต่อ 1 ภาคการเรียน: ประมาณ AUD $21,040

ผลภาษาอังกฤษ: IELTS 6.5 โดยแต่ละพาร์ทต้องได้ไม่ต่ำกว่า 6.0

หรือเทียบเท่าผลของ PTE Academic ที่คะแนน 58 คะแนนขึ้นไป

  • Bachelor of Health Sciences

ระยะเวลาการเรียน: 2 ปี (6 semesters)

ค่าเรียนต่อ 1 ภาคการเรียน: ประมาณ AUD $21,040

ผลภาษาอังกฤษ: IELTS 6.5 โดยแต่ละพาร์ทต้องได้ไม่ต่ำกว่า 6.0

หรือเทียบเท่าผลของ PTE Academic ที่คะแนน 58 คะแนนขึ้นไป

  • Bachelor of International Hotel and Tourism Management

ระยะเวลาการเรียน: 2 ปี (6 semesters)

ค่าเรียนต่อ 1 ภาคการเรียน: ประมาณ AUD $21,040

ผลภาษาอังกฤษ: IELTS 6.5 โดยแต่ละพาร์ทต้องได้ไม่ต่ำกว่า 6.0

หรือเทียบเท่าผลของ PTE Academic ที่คะแนน 58 คะแนนขึ้นไป

  • Bachelor of Laws

ระยะเวลาการเรียน: 2 ปี 8 เดือน (8 semesters)

ค่าเรียนต่อ 1 ภาคการเรียน: ประมาณ AUD $21,040

ผลภาษาอังกฤษ: IELTS 7.0 โดยแต่ละพาร์ทต้องได้ไม่ต่ำกว่า 6.5

หรือเทียบเท่าผลของ PTE Academic ที่คะแนน 65 คะแนนขึ้นไป


ต่อไปเรามาดูในระดับปริญญาโท หรือ Postgraduate Degree กัน

คอร์สที่น่าสนใจมีดังนี้

  • Master of Architecture

ระยะเวลาการเรียน: 1 ปี 4 เดือน (4 semesters)

ค่าเรียนต่อ 1 ภาคการเรียน: ประมาณ AUD $22,629

ผลภาษาอังกฤษ: IELTS 7.0 โดยแต่ละพาร์ทต้องได้ไม่ต่ำกว่า 6.5

หรือเทียบเท่าผลของ PTE Academic ที่คะแนน 65 คะแนนขึ้นไป

  • Master of Business

ระยะเวลาการเรียน: 1 ปี 4 เดือน (4 semesters)

ค่าเรียนต่อ 1 ภาคการเรียน: ประมาณ AUD $16,885

ผลภาษาอังกฤษ: IELTS 6.5 โดยแต่ละพาร์ทต้องได้ไม่ต่ำกว่า 6.0

หรือเทียบเท่าผลของ PTE Academic ที่คะแนน 58 คะแนนขึ้นไป

  • Master of Communication

ระยะเวลาการเรียน: 1 ปี (3 semesters)

ค่าเรียนต่อ 1 ภาคการเรียน: ประมาณ AUD $17,453

ผลภาษาอังกฤษ: IELTS 6.5 โดยพาร์ท Writing ต้องได้ 6.5  และพาร์ท Listening, Speaking และ Reading ต้องได้ 6.0

หรือเทียบเท่าผลของ PTE Academic ที่คะแนน 58 คะแนนขึ้นไป

  • Master of International Relations

ระยะเวลาการเรียน: 1 ปี (3 semesters)

ค่าเรียนต่อ 1 ภาคการเรียน: ประมาณ AUD $15,873

ผลภาษาอังกฤษ: IELTS 6.5 โดยพาร์ท Writing ต้องได้ 6.5  และพาร์ท Listening, Speaking และ Reading ต้องได้ 6.0

หรือเทียบเท่าผลของ PTE Academic ที่คะแนน 58 คะแนนขึ้นไป

  • Master of Laws

ระยะเวลาการเรียน: 8 เดือน (2 semesters)

ค่าเรียนต่อ 1 ภาคการเรียน: ประมาณ AUD $22,840

ผลภาษาอังกฤษ: IELTS 6.5 โดยแต่ละพาร์ทต้องได้ไม่ต่ำกว่า 6.0

หรือเทียบเท่าผลของ PTE Academic ที่คะแนน 58 คะแนนขึ้นไป


นอกจากระดับ Higher Education แล้ว ที่ Bond University ยังมาสอนในระดับ Diploma ด้วยนะคะ

  • Diploma of Arts

ระยะเวลาการเรียน: 8 เดือน (2 semesters)

ค่าเรียนต่อ 1 ภาคการเรียน: ประมาณ AUD $16,240

ผลภาษาอังกฤษ: IELTS 6.0 โดยแต่ละพาร์ทต้องได้ไม่ต่ำกว่า 5.5

หรือเทียบเท่าผลของ PTE Academic ที่คะแนน 50 คะแนนขึ้นไป

  • Diploma of Business

ระยะเวลาการเรียน: 8 เดือน (2 semesters)

ค่าเรียนต่อ 1 ภาคการเรียน: ประมาณ AUD $16,240

ผลภาษาอังกฤษ: IELTS 6.0 โดยแต่ละพาร์ทต้องได้ไม่ต่ำกว่า 5.5

หรือเทียบเท่าผลของ PTE Academic ที่คะแนน 50 คะแนนขึ้นไป

  • Diploma of Health Sciences

ระยะเวลาการเรียน: 8 เดือน (2 semesters)

ค่าเรียนต่อ 1 ภาคการเรียน: ประมาณ AUD $16,240

ผลภาษาอังกฤษ: IELTS 6.0 โดยแต่ละพาร์ทต้องได้ไม่ต่ำกว่า 5.5

หรือเทียบเท่าผลของ PTE Academic ที่คะแนน 50 คะแนนขึ้นไป


นอกจากถ้าน้องๆคนไหนอยากเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียนในระดับ Higher Education ที่ Bond University

มีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ และ คอร์สเตรียมความพร้อม Foundation Program ให้น้องๆลงเรียนก่อนด้วยค่ะ

  • Bond University College Foundation Program

ระยะเวลาการเรียน: 8 เดือน (2 semesters)

ค่าเรียนต่อ 1 ภาคการเรียน: ประมาณ AUD $15,480

ผลภาษาอังกฤษ: IELTS 5.5 โดยแต่ละพาร์ทต้องได้ไม่ต่ำกว่า 5.0

หรือเทียบเท่าผลของ PTE Academic ที่คะแนน 42 คะแนนขึ้นไป

  • English Language Program

ค่าเรียน: 10 สัปดาห์ AUD $4,335 / 4 สัปดาห์ AUD $1,735


ถ้าน้องๆได้ลงเรียนที่ Bond University น้องๆสามารถวางใจได้เลยว่า อาจารย์ผู้สอนทุกท่าน จะสามารถ

ดูแลการเรียนของน้องๆได้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากที่นี่เขาจำกัดจำนวนนักเรียนในห้องแต่ละชั้นเรียน

จะมีจำนวนนักเรียนไม่มาก อยู่ที่ 10 คนต่อ 1 คลาสเท่านั้นค่ะถ้าน้องๆสนใจ สามารถทักทายกันมาได้นะคะ

เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากใน Blog นี้คราวหน้าจะมีสถาบันดีดีที่ไหนอีกที่พี่ๆอีเดนคัดสรรมาฝากน้องๆ

อย่าลืมกดติดตามทุกๆช่องทางของเราไว้ด้วยนะคะ


ไม่อยากพลาดข่าวสารหรือข้อมูลดีๆ

เกี่ยวกับการเรียนต่อ

ทำงาน หรือย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศออสเตรเลีย

นิวซีแลนด์ และแคนาดา

อย่าลืมติดตาม Eden Student Service

ให้ครบทุกช่องทางนะคะ

Facebook: https://bit.ly/3Bs4o12

Instagram: https://bit.ly/3DwVqBn

Website: https://bit.ly/3kHtP7I

Line: https://bit.ly/3t1RiV3

YouTube: https://bit.ly/38tOO8p

Twitter: https://bit.ly/3BlQ4H2

TikTok: https://bit.ly/3kFAUFT

Bond University มหาวิทยาลัยเอกชนที่สวยและไฮโซสุดๆของ Gold Coast – Australia

ห่างหายกันไปพักนึง พี่ๆอีเดนกลับมาพร้อมกับนำข้อมูลมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังของ Gold Coast – Australia

มาแนะนำให้น้องๆรู้จักกันค่ะ นั่นคือมหาวิทยาลัย Bond University นั่นเองค่ะ


Bond University มีขนาดพื้นที่ถึง 50 เอเคอร์ ตั้งอยู่ที่เมือง Robina ไม่ไกลจากตัวเมือง Gold Coast มากค่ะ

ห่างจากชายหาดเพียงแค่ 10 นาที และสามารถเดินทางไปยัง Brisbane โดยใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง

เมือง Robina นี้จะอยู่ติดกันกับเมือง Varsity Lakes, Burleigh Waters และ Mermaid Waters ค่ะ

Bond University ได้รับการประเมิณคุณภาพการเรียนการสอนจาก Good Universities Guide 2021

โดยได้รับการประเมิณคุณภาพได้คะแนนถึง 5 ดาวในด้านของ Teaching Quality, Learner Engagement,

Learning Resources, Student Support, Skills Development, Overall Quality of Education,

Student Retention และ Student-Teacher Ratio เรียกได้ว่าคุณภาพมาแน่นๆเลยทีเดียวเชียวค่ะ


Bond University จะมีทั้งหมด 4 คณะให้เลือกเรียน ได้แก่ Bond Business School,

Faculty of Health Sciences & Medicine, Faculty of Law, และ Faculty of Society & Design ค่ะ

โดยสาขาการเรียนยอดนิยมในระดับปริญญาตรี จะมีสาขา Business, Biomedical Science, Commerce,

Data Analytics, Communication, Actuarial Science, Film and TV, และ Architecture

ส่วนระดับสูงขึ้นไปอีกอย่างปริญญาโท สาขาที่นักเรียนนิยมเรียนกัน ได้แก่ Business, MBA, Data Analytics,

Project Management, Communications, Construction Practice และ Nutrition, and Dietetics ค่ะ


Bond University จะเด่นด้าน Fintech ค่ะ ที่นี่จะมี Bloomberg ให้นักเรียนได้เทรดหุ้นกันสดๆในมหาวิทยาลัย

ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยล่ะค่ะ น้องๆคนไหนที่ลงเรียน FinTech ที่นี่ น้องๆจะสามารถเข้าเทรดหุ้นได้ตลอดเวลาเลยค่ะ

สายเทรดหุ้นต้องชอบที่นี่มากแน่นอนเลยค่ะ จุดเด่นที่สองของที่นี่คือ ด้านการเรียนเป็นทนายค่ะ Bond University

จะมี Criminal Court หรือห้องพิพากษาจำลองให้น้องๆที่ลงเรียนสาขานี้ได้จำลองการเรียนเสมือนได้ทำงาน

เป็นทนายจริงๆเลยค่ะ อีกสาขาหนึ่งที่มีสอนด้วยนั่นคือสาขา Architecture ค่ะ มีถึงระดับ Master of Architecture

เลยค่ะ จุดเด่นของสาขา Architecture คือ ที่นี่จะมี Workshop มีการทำโมเดล Design บ้าน มีห้องทำโมเดลบ้าน

มีเครื่องออกแบบ 3D และนักเรียนทุกชั้นจะได้เรียนรวมกัน ซึ่งมันดีตรงที่ทำให้นักเรียนแต่ละชั้นปี สามารถปรึกษากัน

ได้ตลอดเวลา รุ่นน้องปรึกษารุ่นพี่ รุ่นพี่แวะเวียนมาแนะนำการเรียนน้องๆ แถมยังมีโต๊ะและอุปกรณ์การเรียนประจำตัว

เป็นของตัวเองอีกด้วย


หรือน้องๆคนไหนสนใจอยากเรียนสายพยาบาล ที่นี่ก็มีสอนอีกด้วยนะคะ ยังไม่หมดแค่นี้ น้องๆคนไหนภาษายังไม่แน่น

ไม่แข็งแรง ที่นี่มี Bond University College ซึ่งจะมีสอน English Language Programs เตรียมความพร้อมด้านภาษา

ให้กับน้องๆก่อนที่จะขึ้นไปเรียนในระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโทค่ะ โดย Bond University College ตั้งอยู่ใน

Bond University เลยค่ะ ข้อดีของการเรียนภาษาที่นี่คือ ช่วงที่น้องๆเรียนภาษาอยู่ น้องๆสามารถเข้าไปใช้ Facilities

ในส่วนห้องสมุด ส่วนของอุปกรณ์ IT  ของ Bond University ได้ทั้งหมดเลยค่ะ อีก 1 ข้อดีของการได้เรียนที่นี่คือ

แต่ละชั้นเรียนจะมีจำนวนนักเรียนไม่มาก อยู่ที่ 10 คนต่อ 1 คลาสเท่านั้นค่ะ คลายกังวลได้เลยค่ะว่าจะเรียนไม่รู้เรื่อง

เพราะจำนวนนักเรียนต่อคลาสน้อย นั่นหมายถึงอาจารย์ผู้สอนจะสามารถโฟกัสนักเรียนแต่ละคนแบบใกล้ชิดได้หมด

ทุกคนค่ะ Bond University มีนักเรียนจากประเทศไทยจบไปค่อนข้างเยอะเลยค่ะ ส่วนใหญ่จะกลับมาทำงานเป็นนักวิจัย

ที่ประเทศไทยกันค่ะ


มาถึงด้านสิ่งอำนวยความสะดวกกันบ้าง Bond University มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิเช่น Lecture Theatres

ซึ่งภายในจะมีอุปกรณ์ Overhead Projectors, Touch Screen Computer และ DVD players ให้ใช้,

Case Study Rooms, Tutorial Rooms, มีห้อง Teaching Labs มากถึง 13 ห้อง  และ Seminar Rooms

รวมถึงมีร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ มากมายตั้งอยู่รอบๆทะเลสาบในมหาวิทยาลัยค่ะ ฟังดูแล้วนั่งทานไป มองวิวทะเลสาบไป

บรรยากาศคงฟินเว่อร์มากแน่ๆเลยค่ะ แถมที่นี่สะดวกสบายถึงขั้นมีที่พักที่เป็นของมหาวิทยาลัยเองในบริเวณของ

มหาวิทยาลัยอีกด้วยนะคะ และสำหรับสายรักสุขภาพ ที่นี่มี BOND SPORTS CENTRE ฟิตเนสขนาดใหญ่

เอาไว้ให้ออกกำลังกายกันอีกด้วยนะคะ แต่อาจมีค่าบริการในการสมัครสมาชิกนะคะในการใช้ Facilities นี้ค่ะ


มาถึงตรงนี้ได้แต่ร้องว้าวเลยค่ะ ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นคุณภาพการเรียนการสอน บรรยากาศที่เรียน สิ่งอำนวยความสะดวก

ต่างๆ ทำให้พี่ๆอีเดนอยากย้อนวัยกันกลับไปเรียนกันใหม่เลยค่ะ คราวนี้พี่ๆอีเดนแนะนำข้อมูลคร่าวๆเบื้องต้นของ

Bond University ไปแล้ว Blog หน้าเรามาดูกันว่ารายละเอียดของการเรียนในสาขาต่างๆ เป็นอย่างไร

และค่าเรียนเท่าไหร่ ฝากน้องๆติดตามกันด้วยนะคะ

 

ไม่อยากพลาดข่าวสารหรือข้อมูลดีๆเกี่ยวกับการเรียนต่อทำงาน หรือย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์

และแคนาดา อย่าลืมติดตาม Eden Student Service ให้ครบทุกช่องทางนะคะ

Facebook: https://bit.ly/3Bs4o12

Instagram: https://bit.ly/3DwVqBn

Website: https://bit.ly/3kHtP7I

Line: https://bit.ly/3t1RiV3

YouTube: https://bit.ly/38tOO8p

Twitter: https://bit.ly/3BlQ4H2

TikTok: https://bit.ly/3kFAUFT

Barrington College มีคอร์สอะไรบ้าง ค่าเรียนเท่าไหร่

รอกันนานไหมเอ่ย… วันนี้พี่ๆอีเดนรวบรวมคอร์สเรียนที่น่าสนใจรวมถึงราคาค่าเรียนที่

Barrington College มาให้น้องๆได้ดูกันแล้วค่ะ เริ่มกันเลย!!


ที่ Barrington College จะมีสาขาการเรียนใหญ่ๆอยู่ทั้งหมด 2 สาขา นั่นคือสาขาทางด้าน Business และสาขาทาง

ด้าน Hospitality และที่พิเศษเลยคือมีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษด้วย น้องๆที่ยังไม่มีผลภาษา สามารถทำแพ็คเกจ

เรียนภาษาคู่กับวิชาชีพที่น้องสนใจเรียนมาได้เลยค่ะ และยังมีคอร์สเรียนแบบ Online Course และคอร์สเรียนสั้นๆด้วยค่ะ

วันนี้พี่ๆอีเดนจะแนะนำในส่วนของคอร์สเรียนที่น่าสนใจของที่นี่มาให้น้องๆได้ดูกันนะคะ

เริ่มจากสาขาเด่นของเขาเลย นั่นคือ Hospitality

Certificate III In Commercial Cookery

  • ระยะเวลาเรียน 52 สัปดาห์
  • ต้องมีผล IELTS 5.5 หรือมีผลภาษาจากการเรียนภาษาอังกฤษในประเทศออสเตรเลียให้อยู่ในระดับเลเวล Upper Intermediate
  • ค่าเรียน AUD $12,800

Certificate IV In Commercial Cookery

  • ระยะเวลาเรียน 76 สัปดาห์
  • ต้องมีผล IELTS 5.5 หรือมีผลภาษาจากการเรียนภาษาอังกฤษในประเทศออสเตรเลียให้อยู่ในระดับเลเวล Upper Intermediate
  • ค่าเรียน AUD $16,800

Diploma Of Hospitality Management (Sous Chef)

  • ระยะเวลาเรียน 76 สัปดาห์
  • ต้องมีผล IELTS 5.5 หรือมีผลภาษาจากการเรียนภาษาอังกฤษในประเทศออสเตรเลียให้อยู่ในระดับเลเวล Upper Intermediate
  • ค่าเรียน AUD $12,800

Diploma Of Hospitality Management

  • ระยะเวลาเรียน 52 สัปดาห์
  • ต้องมีผล IELTS 5.5 หรือมีผลภาษาจากการเรียนภาษาอังกฤษในประเทศออสเตรเลียให้อยู่ในระดับเลเวล Upper Intermediate
  • ค่าเรียน AUD $8,500

Advanced Diploma of Hospitality Management

  • ระยะเวลาเรียน 80 สัปดาห์
  • ต้องมีผล IELTS 5.5 หรือมีผลภาษาจากการเรียนภาษาอังกฤษในประเทศออสเตรเลียให้อยู่ในระดับเลเวล Upper Intermediate
  • ค่าเรียน AUD $18,125

เมื่อเรียนจบในหลักสูตรนี้ น้องๆสามารถ Pathway ไปเรียนต่อในระดับปริญญาตรีในหลักสูตร

Bachelor of Business in Hotel Management (12 units) หรือ Bachelor of Business in Tourism and

Hospitality Management (12 units) ที่ Southern Cross University ได้ด้วยนะคะ โดยการเทียบโอน 8 Units

จะเท่ากับระยะเวลาเรียน 1 ปีค่ะ


ต่อมาคือสาขา Business ค่ะ

Diploma Of Business

  • ระยะเวลาเรียน 40 สัปดาห์
  • ต้องมีผล IELTS 5.5 หรือมีผลภาษาจากการเรียนภาษาอังกฤษในประเทศออสเตรเลียให้อยู่ในระดับเลเวล Upper Intermediate
  • ค่าเรียน AUD $8,200

Diploma Of Event Management

  • ระยะเวลาเรียน 54 สัปดาห์
  • ต้องมีผล IELTS 5.5 หรือมีผลภาษาจากการเรียนภาษาอังกฤษในประเทศออสเตรเลียให้อยู่ในระดับเลเวล Upper Intermediate
  • ค่าเรียน AUD $8,500

ถือว่าครบจบในที่เดียวเลยจริงๆค่ะ สำหรับน้องๆที่กำลังมองหาที่เรียนใน Gold Coast พี่ๆอีเดนแนะนำที่นี่มากๆเลยค่ะ

เอาล่ะ วันนี้จบลงเท่านี้ก่อน โรงเรียนหน้ามาลุ้นกันว่าพี่ๆอีเดนจะมีโรงเรียนไหนมาแนะนำให้น้องๆได้รู้จักกันอีก

ฝากติดตามกันด้วยนะคะ


สอบถามข้อมูลการเรียนต่อออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา วีซ่านักเรียน วีซ่าท่องเที่ยว ได้ที่

LINE: @Edenstudentservice หรือแอดไลน์คลิก https://line.me/R/ti/p/%40ogn1392m

ถามตอบปัญหาชีวิตนักเรียนไทยในออสเตรเลียได้ที่่ Askyada

https://www.facebook.com/askyada/

ตามติดชีวิตนักเรียนไทยในออสเตรเลียใน Youtube

http://bit.ly/2KRopp2

อยากเรียนภาษาแบบ High-End ต้องที่นี่เลย The Language Academy – Gold Coast

ช่วงนี้มีน้องๆหลายคนสอบถามมาให้พี่ๆอีเดนช่วยแนะนำโรงเรียนสอนภาษาที่ออสเตรเลียกันค่อนข้างมาก

วันนี้เลยเป็นวันดีดีที่พี่ๆอีเดนอยากจะแนะนำ 1 ในโรงเรียนสอนภาษา เรียกได้ว่าเป็นระดับ High-End

ของเมือง Gold Coast ได้เลยทีเดียว นั่นคือโรงเรียน The Language Academy – Gold Coast


The Language Academy ตั้งอยู่ใจกลางหาด Broadbeach เลยค่ะ โรงเรียนตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า

The Oasis Shopping Centre เป็นห้างดังของเมือง Gold Coast ค่ะ การเดินทางมาโรงเรียนสามารถมาได้ทั้ง

รถยนต์ เดิน ขี่จักรยาน รถบัสสาธารณะ หรือรถราง (Tram) โรงเรียนตั้งอยู่ในห้าง ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่อง

ความลำบากเลยค่ะ เพราะสะดวกสบายมากแน่นอน บริเวณรอบๆโรงเรียนก็จะมีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ

หรือน้องๆคนไหนหลังเลิกเรียนอยากไปเดินชายหาดผ่อนคลายสมองจากการเรียน The Language Academy

ห่างจากหาด Broadbeach 700 เมตร หรือใช้เวลาเดินแค่ 5 นาทีเท่านั้นค่ะ โดยบริเวณรอบๆโรงเรียนก็ยังมี

ศูนย์การค้าอื่นๆอีกด้วยนะคะ เช่น Pacific Fair Shopping Centre ก็ห่างจากโรงเรียนแค่ 1.3 กิโลเมตร

หรือใช้เวลาเดินเพียง 15 นาทีจากโรงเรียนค่ะ


ห้องเรียนมีทั้งหมด 7 ห้องเรียน 1 ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องสมุด และห้องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ รวมถึงห้องครัวด้วยค่ะ

ห้องเรียนที่นี่ก็จะมี Smart-boards มีทีวี มี Computer Lab ให้น้องๆได้ใช้ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม

มีอุปกรณ์การเรียนครบครัน นอกจากนี้ยังมีส่วนของห้องครัวเล็กๆ ซึ่งจะมีอุปกรณ์ให้ทำอาหารง่ายๆ อย่างเช่น

ไมโครเวฟ ตู้เย็น กาน้ำร้อน ชา กาแฟ และเครื่องล้างจานให้ด้วยค่ะ


เหตุผลที่ต้องเรียนภาษาที่ The Language Academy

  • ในแต่คลาสจะจำกัดนักเรียนต่อ 1 คลาสเรียนไม่เกิน 8-10 คนเท่านั้น
  • เป็น Multicultural campus กับภาษาต่างประเทศมากถึง 8 ภาษา
  • การเรียนการสอนมีคุณภาพสูง มีความเอาใจใส่จากอาจารย์ผู้สอน
  • มี Language Clubs ซึ่งจะมีนักเรียนหลากหลายเชื้อชาติ มาให้ได้พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมความรู้กัน
  • อุปกรณ์ IT ที่นี่ใช้ Apple iMacs, iPads และ Smart Board ทั้งหมด
  • น้องๆจะอยู่ได้อยู่ใน Fantastic Location ห้อมล้อมไปด้วย Friendly People
  • โรงเรียนมีกิจกรรมให้ทำทุกสัปดาห์ ไม่ต้องกลัวเบื่อ กลัวเหงากันเลย
  • มี Pathway เพื่อเข้าไปเรียนต่อที่ Griffith University หรือ Bond Universityได้ทุกสาขา ยกเว้นสาขาพยาบาลนะคะ
  • นอกจากภาษาอังกฤษ ยังมีสอนภาษาจีน สเปน เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น โปรตุเกส ให้เลือกเรียนมากมายเลยทีเดียว

เป็นไงบ้างคะ อยากมาเรียนแล้วใช่ไหมล่ะคะ วันนี้พี่ๆอีเดนแนะนำเบื้องต้นในส่วนข้อมูลเกี่ยวกับตัวโรงเรียนก่อน

คราวหน้ารอติดตาม พี่ๆอีเดนจะมาบอกว่าที่นี่มีคอร์สเรียนอะไรบ้าง รายละเอียดเป็นอย่างไร ราคาเท่าไหร่

อย่าลืมมาติดตามกันนะคะ


สอบถามข้อมูลการเรียนต่อออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา

วีซ่านักเรียน วีซ่าท่องเที่ยว ได้ที่

LINE: @Edenstudentservice

หรือแอดไลน์คลิก https://line.me/R/ti/p/%40ogn1392m

ถามตอบปัญหาชีวิตนักเรียนไทยในออสเตรเลียได้ที่่ Askyada

https://www.facebook.com/askyada/

ตามติดชีวิตนักเรียนไทยในออสเตรเลียใน Youtube

http://bit.ly/2KRopp2

Air Gold Coast Flight Training

วันนี้พี่ๆอีเดน จะพาน้องๆไปชมสถาบันชื่อดังที่สอนการขับเครื่องบินโดยเฉพาะ บอกได้เลยว่าที่นี่เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงและ มีคุณภาพการเรียนการสอนที่ดีมากอีกสถาบัน นั่นคือ Air Gold Coast Flight Training

Air Gold Coast  ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1968 เป็นหนึ่งในธุรกิจการบินที่ดำเนินกิจการมายาวนานที่สุดในออสเตรเลีย โดยปกติแล้ว Air Gold Coast จะเปิดรับนักเรียนเฉพาะ Domestic Students หรือนักเรียนที่มีสัญชาติออสเตรเลียเท่านั้น แต่ ณ ปัจจุบัน Air Gold Coast ได้เปิดรับสมัครนักเรียนนานาชาติแล้ว ถือว่าเป็นความโชคดีมากๆเลยค่ะ สถานที่ตั้งของ Air Gold Coast ตั้งอยู่ในสนามบิน Coolangatta Airport เลยค่ะ เรียนจบมาน้องๆสามารถไปสอบเป็น Pilot ได้เลยค่ะ ที่นี่ผูกขาดกับสายการบินญี่ปุ่นด้วยนะคะ ทางสายการบินญี่ปุ่นเขาจะส่งนักเรียนมาเรียนที่นี่ แล้วเมื่อเรียนจบก็ให้กลับไปทำงานเป็นนักบินที่ประเทศญี่ปุ่น ถือว่าเป็นสถาบันที่สายการบินญี่ปุ่นไว้วางใจที่จะส่งนักเรียนมาเรียนเพื่อนำความรู้จากที่นี่กลับไปใช้ทำงานได้จริงๆค่ะ

Air Gold Coast จะสอนให้ขับทั้งเครื่องบินขนาดเล็กและเครื่องบินขนาดใหญ่ นั่นหมายความว่าที่นี่จะมีเครื่องบินให้นักเรียนฝึกหัดขับทั้ง Commercial Pilot เครื่องบินลำใหญ่ และเครื่องบินส่วนตัวลำเล็ก Air Gold Coast มีพื้นที่กว่า 800 เอเคอร์ให้นักเรียนได้หัดขับเครื่องบิน มีเครื่องบินทั้งหมด 40 ลำ  ที่นี่จะสอนทุกอย่างเกี่ยวกับการขับเครื่องบิน มีนักเรียนไทยเคยมาเรียนที่นี่แล้วด้วยนะคะ ซึ่งเมื่อกลับไปยังประเทศไทย น้องๆไม่ต้องไปเรียนเพิ่มแล้วค่ะ แค่น้องๆต้องกลับมาสอบเอา License ที่ประเทศไทยค่ะ การเรียนจะเรียนทฤษฎีประมาณ 1 เทอม แล้วน้องๆก็จะได้ไปฝึกหัดขับเลยค่ะ ซึ่งใน 1 ปี น้องๆจะต้องฝึกบิน 160 ชั่วโมงถึงจะผ่านนะคะ

เมื่อน้องๆเรียนจบจากที่นี่ สามารถ Pathway ไปเรียนต่อในระดับปริญญาตรีในสาขานี้ได้ที่ Griffith University หรือ Southern Cross University เรียนอีกแค่ 2 ปีเท่านั้นค่ะในระดับปริญญาตรี

เอาล่ะ วันนี้พี่ๆอีเดนให้ดูภาพบรรยากาศ และนำข้อมูลเบื้องต้นของ Air Gold Coast มาให้น้องๆได้ทำความรู้จักกันก่อน แล้วครั้งหน้าพี่ๆอีเดนจะนำข้อมูลเรื่องคอร์สเรียนที่นี่มาให้น้องๆดูกันว่ามีคอร์สเรียนอะไรบ้าง ราคาค่าเรียนเท่าไหร่ อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ!!

สอบถามข้อมูลการเรียนต่อออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา วีซ่านักเรียน วีซ่าท่องเที่ยว ได้ที่

LINE: @Edenstudentservice หรือแอดไลน์คลิก https://line.me/R/ti/p/%40ogn1392m

ถามตอบปัญหาชีวิตนักเรียนไทยในออสเตรเลียได้ที่ Askyada: https://www.facebook.com/askyada/

ตามติดชีวิตนักเรียนไทยในออสเตรเลียใน Youtube: http://bit.ly/2KRopp2