Tag: เอเดน

อยากมาเรียน #ออสเตรเลีย🇦🇺 แต่ไม่อยากอยู่เมืองใหญ่ อยากอยู่ในเมืองเล็ก ๆ คนน้อย ๆ อากาศบอุ่น และเต็มคับไปด้วยคุณภาพต้องเลือกมาเรียนที่👉 #ดาร์วิน

.

#Darwin เป็นเมืองหลวงของ Northern Territory ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่เพียงแค่ประมาณ 2 แสนคนเท่านั้นทำให้ Darwin ถูกนับว่าเป็นเมืองหลวงที่มีประชากรน้อยที่สุดในประเทศออสเตรเลีย

.

แต่ในทางกลับกัน Darwin เป็นหนึ่งในเมืองที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจรวดเร็วที่สุดในออสเตรเลีย เนื่องจากความตื่นตัวทางธุรกิจหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ธุรกิจเหมืองแร่และทรัพยากร ธุรกิจการเกษตร และธุรกิจการท่องเที่ยว

.

ทำให้ Darwin กลายเป็นเมืองแห่งโอกาส ค่าครองชีพถูกมีรายได้เฉลี่ยสูงเป็นอันดับสองของประเทศ นอกจากนี้ Darwin ยังมีอัตราการจ้างงานที่สูง ในขณะที่มีประชากรน้อยจึงทำให้มีการแข่งขันต่ำ

.

ในด้านการศึกษา Darwin ก็ถือว่าเป็นเมืองที่มีสถาบันการศึกษาติดระดับท็อปลิสต์ของประเทศอยู่เช่นกัน เริ่มตั้งแต่โรงเรียนมัธยม สถาบันวิชาชีพ มหาวิทยาลัย รวมถึงโรงเรียนภาษา แต่ที่โด่งดังที่สุดที่ต้องพูดถึงคือ เมืองนี้เป็นที่ตั้งของ #CharlesDarwin University มหาวิทยาลัยที่อยู่ในอันดับ 28 ของโลก อันดับที่ 6 ของประเทศ

.

ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มทีอัตราการได้รับการจ้างงานหลังเรียนจบสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ โดดเด่นในด้าน วิศวกรรม อุตสาหกรรม สถาปัตยกรรม ไอที วิทยาศาสตร์และการคิดค้นนวัตกรรม ฯลฯ

.

ตัวเมือง Darwin ติดกับทะเลติมอร์ ทำให้เห็นวิวมหาสมุทรที่งดงาม ทำให้มีอากาศอบอุ่นชื้นแบบเมืองติดทะเล มีเพียงฤดูแล้งและฤดูฝน สภาพอากาศคล้าย ๆ กับภาคใต้ของไทย ช่วยให้เราปรับตัวได้ไม่ยาก

.

หากใครสนใจอยากมาเรียนต่อที่เมือง Darwin สามารถแอดไลน์ @Edenstudentservice เพื่อสอบถามรายละเอียดและรับคำปรึกษาฟรีวันนี้ได้เลยค่ะ

.

เพราะเราใส่ใจมากกว่า

.

#edenstudentservice

#educationagency#askyada

#อีเดน #เอเดน #ทุนเรียนต่อ #เรียนต่อนอก #เรียนต่อต่างประเทศ #เรียนต่อออสเตรเลีย #เรียนต่อ #เรียต่อAustralia #ทุน

#Qantas ย่อมาจาก ” #Queensland and #NorthernTerritory Aerial Services ” ที่หมายถึงบริการการเดินทางทางการบินประจำรัฐ #ควีนส์แลนด์ และดินแดนเขตเหนือ

.

ด้วยจำนวนเครื่องบินกว่า 143 ลำ พร้อมกับมีเส้นทางการบินครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 180 จุดหมายปลายทางทั่วโลก ทำให้ Qantas กลายเป็นสายการบินแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรเลียไปด้วยจำนวนเครื่องบินและจำนวนเส้นทาง

.

ซึ่ง Qantas มีฐานการบินหลัก 3 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติคิงส์ฟอร์ดสมิธ ในนคร #ซิดนีย์, ท่าอากาศยาน #เมลเบิร์น และท่าอากาศยาน #บริสเบน

.

เส้นทางบินยอดนิยม✨

ภายในประเทศ : ซิดนีย์-บริสเบน, ซิดนีย์-โกลโคสต์, ซิดนีย์-เวลลิงตัน

ภายนอกประเทศ : จะได้รับความนิยมในเส้นทางหลักที่ชื่อว่า Kangaroo Routes เช่น ซิดนีย์-กรุงเทพฯ, ซิดนีย์-โตเกียว, ซิดนีย์-ลอนดอน และซิดนีย์-ปารีส เป็นต้น

.

โดยในปัจจุบันทาง Qantas มีบริการการบินด้วย #Airbus A350-1000 ซึ่งมีพิสัยบินไกลสุดมากกว่า 10,000 ไมล์โดยไม่ต้องแวะเติมน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้สามารถเดินทางในเส้นทาง Kangaroo Routes แบบบินตรงไม่ต้องแวะพักเครื่องได้ ช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายขึ้นแถมยังลดเปอร์เซ็นต์การปล่อยคาร์บอนของเครื่องบินได้ถึง 25 % อีกด้วย

.

#ควอนทัส ใช้โค้ดการบินว่า QF และมีชื่อเล่นว่า จิงโจ้บิน หรือ Flying Kangaroo ซึ่งมาจากสัญลักษณ์อันโดดเด่นสะดุดตาเป็นรูปจิงโจ้ในฉากหลังสีแดงสดที่หางของเครื่องบินทุกลำนั่นเอง

.

น้อง ๆ สามารถซื้อตั๋วเครื่องบินของสายการบิน Qantas เพื่อเดินทางมายังออสเตรเลียได้แบบบินตรง โดยขึ้นเครื่องที่อากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิไปยัง #ซิดนีย์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง 30 นาที มีให้บริการทุกวัน

.

นอกจากนี้ยังบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปลงเมืองอื่นได้อีกด้วย เช่น เมลเบิร์น

เพิร์ธ , แคนเบอร์รา และบริสเบน เป็นต้น

.

หากใครสนใจอยากมาเที่ยว ทำงาน หรือเรียนที่ออสเตรเลียไม่ว่าจะเป็นที่เมืองไหนก็ตามสามารถแอดไลน์ @Edenstudentservice เพื่อสอบถามรายละเอียดและรับคำปรึกษาฟรีวันนี้ได้เลยค่ะ

—————————————-

เพราะเราใส่ใจมากกว่า

#Fiji หรือสาธารณรัฐฟิจิ เป็นประเทศหมู่เกาะ ที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวสายตะลุยธรรมชาติในออสเตรเลีย🇦🇺เลยทีเดียว

.

สำหรับคนไทยที่มี #วีซ่า อยู่ออสเตรเลียแล้ว อยากเดินทางไปเที่ยว Fiji ต่อก็สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า เพียงแค่มี #Passport สัญชาติไทย ที่มีอายุมากกว่า 6 เดือน เท่านี้ก็สามารถเข้ามาท่องเที่ยวและพักอาศัยในฟิจิได้สูงสุดถึง 4 เดือน

.

อย่างไรก็ตามเราอาจจะต้องเตรียมเอกสารอื่น ๆ เผื่อเอาไว้เมื่อเจ้าหน้าที่ขอดูจะการตรวจคนเข้าเมืองจะได้ราบรื่นไม่มีปัญหา โดยเอกสารที่ตั้งใจอยากให้เตรียม ได้แก่ 🔻

ตั๋วเครื่องบินทั้งขาไปและขากลับ

เอกสารการจองที่พัก การเช่ารถ หรือแผนการเดินทาง

หลักฐานการเงิน

หลักฐานแสดงการถือวีซ่าของออสเตรเลียของเรา

.

ซึ่งเราสามารถติดต่อสอบถาม และขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับการเดินทางไปและกลับฟิจิได้ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุง #แคนเบอร์รา ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ทางการทูตครอบคลุมไปถึง #ฟิจิ

—————————————-

ไม่อยากพลาดข่าวสารหรือข้อมูลดีๆ

เกี่ยวกับการเรียนต่อ

ทำงาน หรือย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศออสเตรเลีย

นิวซีแลนด์ และแคนาดา

อย่าลืมติดตาม Eden Student Service

ให้ครบทุกช่องทางนะคะ

Facebook: https://bit.ly/3Bs4o12

Instagram: https://bit.ly/3DwVqBn

Website: https://bit.ly/3kHtP7I

Line: https://bit.ly/3t1RiV3

YouTube: https://bit.ly/38tOO8p

Twitter: https://bit.ly/3BlQ4H2

TikTok: https://bit.ly/3kFAUFT

.

เพราะเราใส่ใจมากกว่า

👗 อัปเดตแฟชั่นหน้าร้อนใน #ออสเตรเลีย คนออซซี่เค้าแต่งตัวกันยังไง

.

ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้กับเทรนด์แฟชั่นที่มาแรงที่สุด ลากยาวมาตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปี 2022 มาจนถึงฤดูร้อนปี 2023 กลับกระแส Y2K ที่เน้นความเรียบง่ายและสนุกสนานในการแต่งตัว

.

โดยเทรนด์การแต่งตัวแบบต้นยุค 2000 กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งจากความสนใจของวัยรุ่น Gen Z ที่นำเอาสไตล์การแต่งตัวแบบ #Y2K มาใส่และปรับให้เข้ากับยุคสมัย เกิดเป็นปรากฏการณ์การสร้างคอนเทนต์ พร้อมกับติดแฮชแท็ก #Y2Kaesthetic หรือ #Y2Kfashion บนแพลตฟอร์ม TikTok จนทำให้เสื้อผ้าแนวนี้กับมามีอิทธิพลอีกครั้ง

.

อิทธิพลนี้แพร่หลายไปทั่วโลกไม่เว้นแม้กระทั่งวงการแฟชั่นของออสเตรเลีย ทำให้เทรนด์ Y2K ได้ไปปรากฏในคอลเลกชันเสื้อผ้าช่วง Summer จากหลากหลายแบรนด์ในออสเตรเลีย🇦🇺

.

สำหรับใครที่กำลังจะมาออสเตรเลียช่วงหน้าร้อนนี้ เรามาอัปเดตเทรนด์แฟชั่นกันสักนิดนึงว่าช่วงนี้ชาวออสซี่เขาฮิตแต่งตัวแบบไหนกัน ถ้าพร้อมแล้วเราไปช็อปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

.

1 — Get naked

อากาศร้อน ๆ แบบนี้จะมีแต่งตัวหนามิดชิดก็คงทนความร้อนกันไม่ไหว ชาวออสซี่ส่วนใหญ่จึงหันมาแต่งตัวแบบโชว์เนื้อโชว์หนังกันสักหน่อย อาจเป็นได้ตั้งแต่เสื้อครอป เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น ไปจนถึงเสื้อซีทรูแบบฉลุลาย ที่ใส่แล้วให้ความรู้สึกสบายตัว ไม่อึดอัด และร้อนจนเกินไป

.

2 — So #Silky

อีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความนิยมคือการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าไหม สวมแว่นกันแดดและรองเท้าแตะ ฟีลสบายๆ เหมือนชุดนอน แต่ใส่ไปได้ในหลาย ๆ โอกาส ตั้งแต่ทำงานยันไปเที่ยวทะเล บอกเลยเก๋กู๊ด

.

3 — (Another) #Dopamine Hit

เป็นเทรนด์การแต่งตัวที่เน้นเสื้อผ้าสีสันจัดจ้าน เพื่อแสดงออกถึงความสุขของผู้ใส่ เป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมในออสเตรเลียช่วงคลายล็อคดาวน์ยาวมาจนถึงปีนี้

.

4 — Back to #Basics

ลุคพื้นฐานของแฟชั่นหน้าร้อนที่ยืนยงตลอดการ เป็นสไตล์การแต่งตัวง่าย ๆ แบบกางเกงขายีนส์ขาสั้นกับเสื้อกล้ามสีเพลน แอบมีความ Y2K เบา ๆ ถือว่าเป็นสไตล์เรียบง่ายแต่ทรงพลัง

.

5 — Into the #Desert

เป็นสไตล์การแต่งตัวที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดินและทะเลทรายอันเป็นสัญลักษณ์ของหน้าร้อนในออสเตรเลีย โดยส่วนใหญ่ผู้คนก็มักจะจับคู่สีจากธรรมชาติ สีกากี สีแดงเข้ม และสีเบจ แล้วเพิ่มสีสันด้วยเฉดสีฟ้าและเขียวน้ำทะเล ออกแนว #EartToneก็เก๋ไม่น้อย

.

6 — Heavy on the #Metal

หน้าร้อนปีนี้หลากหลายแบรนด์ที่ปล่อยคอลเลกชันในออสเตรเลียก็ค่อนข้างล้ำหน้าหลุดโลกกันไปเยอะ ซึ่งมาพร้อมกับเทรนด์การแต่งตัวแบบใช้สีเหล็กแวว ๆ แบบ เมทัลหรือสีเงิน ทอง และโครเมียม ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นสไตล์ของเฉดสีประจำเดือนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

.

เพราะเราใส่ใจมากกว่า

วันนี้ EDEN💚 ขอแชร์ลิสต์ Working & Skills Visas Australia🇦🇺 ไว้ให้น้องๆ เป็นไอเดียสำหรับการศึกษาหาข้อมูลและปรึกษาไมเกรชั่นเอเจ้นท์กันนะคะ

🟢Skilled Independent (Subclass 189) = PR

🟢Skilled Nominated (Subclass 190) = PR

🟢Skilled Regional (Subclass 491)

🟢Graduate (Subclass 485)

🟢Skilled Regional (Subclass 887)

🟢Temporary Skill Shortage (Subclass 482)

🟢Employer Nomination (Subclass 186) = PR

🟢Employer Regional (Subclass 494)

🟢Skilled Regional Permanent Residence Visa (Subclass 191)

🟢Temporary Work (Short Stay Specialist) (Subclass 400)

🟢Temporary Activity Visa (Subclass 408)

🟢Distinguished Talent Visa (Subclass 124) = PR

🟢Distinguished Talent Visa (Subclass 858) = PR

.

เพราะเราใส่ใจมากกว่า

.

#educationagency#askyada

#อีเดน#เอเดน

#ทุนเรียนต่อ#เรียนต่อนอก#เรียนต่อต่างประเทศ#เรียนต่อออสเตรเลีย#เรียนต่อ#เรียนต่อAustralia#ทุน

💁‍♀️หลายๆคนเข้าใจผิดคิดว่า การที่เรียนจบวุฒิที่สูงจากมหาวิทยาลัยอย่างปริญญาโท ปริญญาเอก แล้วจะช่วยให้โอกาสวีซ่านักเรียนผ่านสูง

.

การพิจารณาวีซ่านักเรียนนั้น หลักๆแล้วจะดูจาก ความคุ้มค่าหรือประโยชน์ของคอร์สที่เรียน ต่องานในอนาคตของเรา

ตัวอย่างเช่น👉 เรียนจบปริญญาโทสายบริหาร มาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในไทย ปัจจุบันทำงานตรงสายในบริษัททำเครื่องสำอางค์และยา ตำแหน่งสูง เงินเดือนดี มีเงินในสเตตเม้นท์สูงมาก ยื่นสมัครวีซ่านักเรียนในระดับ vocational education and training (VET) ระบุว่าต้องการเรียนคอร์ส painting เป็นช่างทาสี (เพราะเล็งเห็นแล้วว่ามีโอกาสได้ PR เมื่อเรียนจบ)

1 — ไม่มีความเกี่ยวเนื่องของคอร์สเรียนทาสี กับงานปัจจุบัน

2 — เรียนจบปริญญาโท แล้วกลับมาเรียนระดับ certificate / diploma โดยไม่ได้เป็นสาขาที่สามารถเพิ่มความรู้ หรือต่อยอดจากสายงานของเรา

3 — งานปัจจุบันเงินเดือนดี และอาจจะสูงกว่าอาชีพช่างทาสีในไทย

.

จากเหตุผลเบื้องต้น ก็เพียงพอที่จะให้อิมไมเกรชั่นปฏิเสธวีซ่านักเรียนของเราแล้วค่ะ

❕ย้ำกันอยู่เสมอว่า การทำวีซ่านักเรียนนั้น วัตถุประสงค์หลักคือเพื่อมาเรียน และอยู่อาศัยในออสเตรเลียชั่วคราว วีซานักเรียนไม่ได้ถูกยื่นมาเพื่อการต้องการย้ายถิ่นฐานหรือได้ PR ดังนั้นเราต้องแยกสองประเด็นให้ออก หลายๆคนที่มาจากไทยต้องการเรียนคอร์สที่ทำให้มีโอกาสได้ PR โดยข้าม step ของการพิจารณาว่า คอร์สเรียนนั้นเพิ่มโอกาสให้วีซ่านักเรียนเราผ่านมาจากไทยหรือไม่ ตรงนี้เป็นจุดที่ต้องระวังนะคะ เพราะเมื่อโดนปฏิเสธวีซ่านักเรียนแล้ว โอกาสที่จะยื่นรอบสองให้ผ่านนั้นยากกว่าเดิมแน่นอน

.

แต่ในกรณีที่เราต้องการเรียน certificate / diploma ซึ่งต่ำกว่าวุฒิที่เราจบมา แต่คอร์สนั้นต่อยอด เจาะลึก หรือเพิ่มเติมทักษะและความรู้ของเราได้ โอกาสที่วีซ่าจะผ่านก็มีสูง

ยกตัวอย่างเช่น👉 เรียนจบปริญญาตรีสายวิศวะไฟฟ้า ปัจจุบันทำงานวางแผงติดโซลาร์ บริษัทมีการสนับสนุนการอนุรักษณ์พลังงานและการทำธุรกิจแบบยั่งยื่น จึงมาลงเรียน Diploma of sustainable operation เพื่อเจาะลึกความรู้ให้มากขึ้น ตรงนี้สมเหตุสมผลที่จะมาเรียนค่ะ

.

🟢วางแผนกันให้ดีๆ เข้ารับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์ มีความรู้ ผ่านการทำงานมาหลายเคส มองภาพได้กว้างและเห็นในสิ่งที่เราอาจจะคิดไม่ถึงนะคะ Education agent ที่ดี ไม่ใช่คนที่ตามใจเรา ให้เรียนอะไรก็ได้ แต่เป็นคนที่แนะนำตามความเป็นจริงถึงความเป็นไปได้ และความเสี่ยงนะคะ

.

เพราะเราใส่ใจมากกว่า

.

#edenstudentservice

#เรียนต่อออสเตรเลีย #ทีมออสเตรเลีย

สำหรับใครที่เรียนอยู่ออสเตรเลีย🇦🇺แล้วมีแพลนอยากไปเที่ยว #นิวซีแลนด์🇳🇿 กำลังต้องการขอวีซ่าท่องเที่ยว แล้วสงสัยว่าต้องทำยังไงโพสต์นี้มีคำตอบค่ะ

.

หากว่าน้อง ๆ มีวีซ่านักเรียนอยู่แล้ว การจะขอวีซ่าไปเที่ยวนิวซีแลนด์ง่ายนิดเดียวค่ะ สามารถดำเนินการด้วยตัวเองได้ผ่านช่องทางออนไลน์ ตามขั้นตอนต่อไปนี้ 🔻

.

❶ เตรียมเอกสารที่จำเป็นให้ครบ

พื้นฐานของการขอวีซ่าเลยค่ะ ต้องเตรียมเอกสารหลักฐานที่จำเป็นต้องใช้ให้ครบ โดยในการขอวีซ่าท่องเที่ยวนิวซีแลนด์จะต้องใช้เอกสารดังนี้ 🔻

Passport ตัวจริง

Current visa letter ฉบับจริง

Student Verification Letter / #COE

รูปถ่ายขนาดเท่ารูปประจำตัวใน #Passport

Bank statements หรือ สลิปเงินเดือน 6 เดือนย้อนหลัง

ข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น เอกสารจองโรงแรม, จองรถ, ตั๋วเครื่องบิน, แผนการท่องเที่ยว อธิบายให้ชัดว่าเราจะไปทำอะไรที่ไหนบ้าง เพราะทาง #NewZealand Immigration จะพิจารณาข้อมูลอย่างละเอียด

.

ค่าใช้จ่าย 💰💰💰

— Service fee – Sydney AUD 35 $

— ค่าวีซ่า #AUD 55 $

— รวม AUD 150 $

.

❷ เข้าไปกรอกข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์

เมื่อเตรียมเอกสารพร้อมแล้ว ให้เข้าไปสมัคร #account แล้วกรอกข้อมูลเพื่อยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวนิวซีแลนด์ แบบออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์

https://www.immigration.govt.nz/new-zealand-visas

.

โดยเลือกประเภทวีซ่าเป็น Visitor Visa พร้อมอัปโหลดเอกสารต่างๆที่เตรียมไว้ ในส่วนนี้จะกรอกข้อมูลค่อนข้างเยอะ แต่ข้อดีคือสามารถแก้ไขได้ง่าย

.

❸ ยื่นขอ #วีซ่า

เมื่อกรอกข้อมูลลงเว็บไซต์ครบถ้วนแล้ว ให้เราปรินต์ Reference Letter ออกมา แล้วส่งไปยัง New Zealand Visa Application Centre – Sydney พร้อมกับ Passport เล่มจริง ซองเปล่า และอีเมลฟอร์มสำหรับจ่ายเงินค่าส่งเอกสารกลับ เพื่อให้ทางอิมไมเกรชั่นตรวจสอบแล้วส่งวีซ่ากลับมาได้

.

โดยที่อยู่การจัดส่งจะถูกระบุเอาไว้แล้วใน Reference Letter ซึ่งในขั้นตอนนี้จะใช้เวลา 1-2สัปดาห์ ทางซิดนีย์ก็จะส่งพาสปอร์ตกลับคืนมาให้ค่ะ

.

❹ รอรับวีซ่า

🟢จากนั้น New Zealand Immigration จะส่งผลการพิจารณาวีซ่าผ่านทางอีเมล ตามปกติขั้นตอนนี้มักใช้เวลาประมาณ 1-4 สัปดาห์ เท่านี้ก็จะได้วีซ่าท่องเที่ยวไปเที่ยวนิวซีแลนด์ได้อย่างสบายใจแล้วค่ะ

.

เพราะเราใส่ใจมากกว่า

.

#edenstudentservice

#educationagency #askyada

#อีเดน #เอเดน

#ทุนเรียนต่อ #เรียนต่อนอก #เรียนต่อต่างประเทศ #เรียนต่อออสเตรเลีย #เรียนต่อ #เรียนต่อAustralia

จะมาออสเตรเลียต้องรู้จัก กระแสน้ำ #Rip Current ❕

.

ทะเลและกิจกรรมทางน้ำ เป็นหนึ่งในจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวของ #ออสเตรเลีย ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกหลากหลายคนให้เดินทางเข้ามาเยี่ยมชม ถือเป็นไฮไลต์หนึ่งที่คนมาออสเตรเลียจะพลาดไม่ได้เลยทีเดียว

.

อย่างไรก็ตามการมาเล่นน้ำที่ออสเตรเลียก็มีข้อควรระวังอยู่หลายข้อ หนึ่งในนั้นคือกระแสน้ำ Rip #Current กระแสน้ำอันตรายที่เจอได้บ่อยบริเวณชายฝั่ง

.

#RipCurrent หรือ คลื่นทะเลดูด เป็นกระแสน้ำรุนแรงที่เกิดขึ้นช่วงสั้น ๆ ลักษณะเป็นคลื่นย้อนกลับจากบริเวณชายฝั่ง

.

ทำให้ผู้ที่หลงเข้าไปอยู่ในเส้นทางน้ำถูกพัดให้ลอยออกไปไกลจากชายฝั่ง เมื่อพยายามว่ายทวนกลับก็จะโดนกระแสน้ำต้านไว้ในที่สุดก็จะหมดแรง หรือเหนื่อยหอบจนสำลักน้ำ แล้วจมน้ำเสียชีวิตไป

.

เรียกได้ว่า Rip Current เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตส่วนใหญ่ของนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำทะเลในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงออสเตรเลีย สถิติจาก beach safe รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจาก Rip Current อย่างน้อย 21 คนต่อปี ดังนั้นการไปเที่ยวทะเลในออสเตรเลียจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจเรื่อง Rip Current ให้ดี จะได้เล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย

.

[ Rip Current เกิดขึ้นได้อย่างไร ]

กระแสน้ำ Rip Current เกิดจากคลื่นที่ไหลกระทบชายฝั่ง แล้วไหลกลับลงทะเล แต่ดันเจอสิ่งกีดขวางใต้น้ำ เป็นเหมือนกำแพงที่มีช่องว่างแคบ ๆ ทำให้กระแสน้ำไหลรวมกันผ่านช่องแคบระหว่างสิ่งกีดขวางเหล่านั้นกลับลงทะเล เกิดเป็นกระแสน้ำแรงไหลย้อนกลับ

.

[ วิธีการสังเกตพื้นที่ที่เกิด Rip Current ]

สังเกตกระแสน้ำ หากมีกระแสน้ำไหลบริเวณชายฝั่งปั่นป่วนเป็นรูปทรงคล้าย ๆ เห็ด แสดงว่าตำแหน่งนั้นกำลังเกิด Rip Current

สังเกตสีของน้ำ หากมีสีขุ่น อาจเป็นไปได้ว่าพื้นที่นั้นกำลังเกิด Rip Current เนื่องจากความแรงของกระแสน้ำมักจะพัดเอาตะกอนใต้น้ำให้ลอยขึ้นมา

สังเกตเศษสิ่งของที่ลอยออกจากชายหาดหรือฟองคลื่นที่ไหลกลับลงทะเล หากไหลกลับอย่างรวดเร็วก็ให้หลีกเลี่ยงบริเวณนั้น

สังเกตหน้าคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ถูกตัดแหว่งเป็นร่องๆ แสดงว่ากำลังเกิด Rip Current

สังเกตธงเฝ้าระวังหากพื้นที่ไหนเป็นสีแดงหรือสีเหลืองก็ให้ระวังเป็นพิเศษ

.

[ หากติดเข้าไปใน Rip Current ต้องแก้ไขยังไง ]*

1 — ตั้งสติ หากว่ายน้ำเป็นให้ประคองตัวให้อยู่เหนือน้ำไว้ เพื่อให้สามารถหายใจได้

2 — ไม่ต้องพยายามว่ายทวนกลับ ปล่อยตัวให้ไหลไปตามกระแสน้ำ เมื่อออกห่างจากฝั่งระยะหนึ่ง กระแสน้ำจะเบาลงจนหายไปในที่สุด

3 — มองหาทิศทางของชายฝั่ง แล้วว่ายน้ำขนานกับชายฝั่งไปก่อน จนกระทั่งพ้นจากแนวกระแส rip current แล้วค่อยว่ายกลับเข้าหาฝั่ง หรือให้คลื่นพาเรากลับเข้าฝั่ง

4 — ถ้าว่ายน้ำไม่ได้ หรือไม่มีแรงว่ายน้ำ ให้โบกมือขอความช่วยเหลือ

.

👉 สำหรับใครที่กำลังจะเดินทางมาออสเตรเลีย อย่าลืมนะคะถ้าจะลงเล่นน้ำอย่าลืมที่จะสังเกตพื้นที่ให้ดีก่อนลงเล่นหากบังเอิญเจอคลื่นซัดแรงเข้ามาก็ให้ตั้งสติแล้วแก้ปัญหาตามที่เราแนะนำนะคะ ด้วยความเป็นห่วงจากพี่ๆ #Eden

—————————————-

ไม่อยากพลาดข่าวสารหรือข้อมูลดีๆ

เกี่ยวกับการเรียนต่อ

ทำงาน หรือย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศออสเตรเลีย

นิวซีแลนด์ และแคนาดา

อย่าลืมติดตาม Eden Student Service

ให้ครบทุกช่องทางนะคะ

Facebook: https://bit.ly/3Bs4o12

Instagram: https://bit.ly/3DwVqBn

Website: https://bit.ly/3kHtP7I

Line: https://bit.ly/3t1RiV3

YouTube: https://bit.ly/38tOO8p

Twitter: https://bit.ly/3BlQ4H2

TikTok: https://bit.ly/3kFAUFT

.

เพราะเราใส่ใจมากกว่า

น้องๆที่มา work and holiday visa มีโอกาสที่ดีมากๆ ในการทำงานฟูลไทม์ เก็บเงิน หลายๆคนจึงมีโอกาสได้เรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย วันนี้พี่ๆ EDEN💚 ขอแนะนำหลักสูตรปริญญาตรีสายพยาบาล แก่น้องๆที่มองหาสาขาเรียนที่ยังอยู่ใน MLTSSL ของ Skilled Occupation list บอกได้เลยว่าอาชีพพยาบาล เป็นที่ต้องการและขาดแคนมากในออสเตรเลีย และในบางรัฐ การยื่นขอ state nomination นั้นยังยกให้อาชีพในสาขาเหล่านี้เป็น priority มาก่อนอาชีพอื่นๆ อีกด้วย

.

อยากเรียนพยาบาลต้องเริ่มที่ตรงไหน ❔

👉หลักสูตรพยาบาลนั้น มีตั้งแต่ diploma (enrolled nurse – STSOL) และปริญญาตรี (Registered Nurse – MLTSSL) โดยมีเกณฑ์การสมัครเรียนเหมือนกันคือ ต้องมีคะแนนไอเอลส์ทุกพาร์ทขั้นต่ำ 7

.

ถ้าคะแนนภาษายังไม่ถึงแต่อยากเรียนพยาบาล ต้องเริ่มตรงไหน ❔

บางมหาวิทยาลัย เช่น University of Southern Queensland มีหลักสูตรเรียนภาษาสำหรับผู้ที่มีคะแนนภาษา 6.5 ให้มาเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียนพยาบาลได้ (ก่อนเข้าเรียน ต้องสอบให้ได้ไอเอลส์ 7 นะคะ)

.

ค่าเรียน 💰

— ค่าเรียนพยาบาลในระดับ diploma 1 ปี 6 เดือน จะอยู่ที่ประมาน $26,400 ทั้งคอร์ส

— ค่าเรียนพยาบาลในระดับปริญญาตรี 3 ปี จะอยู่ที่ประมาน $25,600 ต่อปี

.

ใครที่จบพยาบาลมาจากไทย สามารถยื่น transfer credit ลดจำนวนวิชาเรียนและค่าเรียนในระดับ ป ตรี ได้อีกด้วยนะคะ

.

อยากเป็นเด็กมหาลัยในออส แอดไลน์ EDEN💚 เพื่อรับคำปรึกษาฟรีวันนี้นะคะ

.

Please note 📔

– ข้อมูลบนโพสนี้ไม่ใช่การให้คำแนะนำด้านไมเกรชั่น หากต้องการรับคำปรึกษาควรติดต่อไมเกรชั่นเอเจ้นท์โดยตรง เพราะนอกจากวุฒิการศึกษาแล้ว ยังต้องมีประสบการณ์การทำงานและคุณสมบัติอื่นๆอีกด้วย

– ข้อมูล ราคาและเงื่อนไขต่างๆ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามสถาบัน ANMAC และ Department of home affairs

– การลงทะเบียนเรียน ไม่ได้การันตี employment และ visa outcome

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

ไม่อยากพลาดข่าวสารหรือข้อมูลดีๆ

เกี่ยวกับการเรียนต่อ

ทำงาน หรือย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศออสเตรเลีย

นิวซีแลนด์ และแคนาดา

อย่าลืมติดตาม Eden Student Service

ให้ครบทุกช่องทางนะคะ

.

เพราะเราใส่ใจมากกว่า

รู้หรือไม่ เมือง Brisbane ถูกเลือกให้เป็นสถานที่จัดงาน Summer #Olympic🏅 ครั้งที่ 35 ที่จะถูกจัดขึ้นในปี 2032 นี้

.

โดยทางรัฐบาล #ออสเตรเลีย เป็นผู้ชนะการประมูลคัดเลือกการจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกจาก International Olympic Committee หรือ #IOC เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2021 และได้สิทธิเป็นเจ้าภาพจัดงาน #SummerOlympic ครั้งที่ 35 ที่จะถูกจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม ถึง 8 สิงหาคม 2032

.

ซึ่งเมือง #บริสเบน รัฐควีนส์แลนด์ เป็นเมืองที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นสถานที่ในการจัดการแข่งขัน ซึ่งจะถือว่าเป็นเมืองที่ 3 ของประเทศออสเตรเลียเคยได้ใช้เป็นพื้นที่จัดงาน โดย 2 ครั้งก่อนหน้านี้ จัดขึ้นในปี 1956 ที่ #เมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย และปี 2000 ที่ #ซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์

.

บริสเบนมีเวลา 11 ปี ในการเตรียมการจัดงานหลังจากชนะการประมูลในปี 2021 เดิมเมืองบริสเบนก็เป็นเมืองที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีพอจะรองรับการจัดงานได้สูงถึง 80 % อยู่แล้ว แต่ทางรัฐบาลก็ยังคงลงทุนเพื่อปรับโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง

.

ไม่ว่าจะเป็น … 🔻

#Brisbane Live สนามกีฬาขนาดจุคน 17-18,000 คน เป็นจุดศูนย์กลางสำหรับกิจกรรมและการแข่งขันกีฬาต่างๆ

การปรับปรุง Brisbane Cricket Ground ให้กลายเป็นสนามกีฬาหลัก

การก่อสร้างสถานีรถไฟใหม่ใต้ดินผ่านใจกลางเมือง และ Cross River Rail ทางรถไฟใต้แม่น้ำบริสเบน

การปรับปรุงระบบการขนส่งสาธารณะโดยเน้นไปที่ย่านธุรกิจของบริสเบน

การสร้างถนนคนเดินแห่งใหม่ ซึ่งได้รับการเสนอให้เป็นสถานที่สำหรับการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลการแข่งขัน

ก่อสร้างหมู่บ้านนักกีฬาบริสเบน ที่จะถูกจัดขึ้นริมน้ำในเขต #Northshore Hamilton เพื่อตอกย้ำชื่อเสียงเรื่องการเป็นเมืองริมน้ำที่สวยงาม ซึ่งทางบริสเบนกำลังพยายามจะโปรโมทไอเดียนี้

.

บอกได้เลยว่าในช่วง 10 ปีนี้เราจะเห็นบริสเบนพัฒนาก้าวหน้ากลายเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวรองรับเทศกาลแห่งใหม่ของออสเตรเลีย

.

หากใครเลือกมาเรียนหรือทำงานที่บริสเบนในช่วงนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเลยล่ะค่ะ เพราะเมืองที่กำลังเร่งพัฒนาแบบนี้จะมีงานให้เราทำเยอะกว่าที่อื่นแน่นอน

.

เพราะเราใส่ใจมากกว่า