ออสเตรเลีย🇦🇺 วางแผนนำแรงงานทักษะ หรือ skilled migrant มาเป็นพลเมืองถาวรถึง 190,000 คน ในปี 2023-24 permanent Migration Program โดย 72% ของ program เป็น Skill stream allocation เทียบเท่า 137,100 ที่นะคะ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ตอนนี้โฟกัสของอิมไมเกรชั่นคือการให้วีซ่าแก่ผู้มีทักษะ

.

ถ้าถามพี่ยาดาว่า มันจะส่งผลยังไงบ้างกับการวางแผนในการขอวีซ่านักเรียนจากเมืองไทย ความคิดเห็นของพี่ยาดาคาดว่าผู้สมัครที่ไม่มีทักษะภาษาและต้องการมาเรียนภาษาเป็นเวลานานๆในออสเตรเลีย จะได้วีซ่ายากขึ้น หากไม่มีเหตุผลเพียงพอ แต่คนที่มาเรียนในระดับปริญญา ตรี โท เอก หรือสายอาชีพที่สามารถขอ🟢 Temporary graduate visa ได้หลังเรียนจบ ยังมีโอกาสขอวีซ่าผ่านค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของเฉพาะบุคคลด้วย

ในส่วนของการแข่งขันในตลาดแรงงานบอกได้เลยว่ามีแต่จะเพิ่มขึ้น เพราะถ้านายจ้างได้แรงงานที่มีทักษะพร้อมมาทำงาน คนที่ไม่มีทักษะภาษาที่ดีหรือมี skill อื่นๆ ก็จะตกที่นั่งลำบาก หางานยากขึ้น งานที่พอจะหาได้ก็จะเป็นงานที่ไม่ต้องใช้ภาษาหรือทักษะสูงแต่เน้นใช้แรงงานค่ะ

👉แล้วถามว่าการเพิ่มจำนวนแรงงานทักษะให้มีโอกาสได้ PR แบบนี้ดีรึเปล่า บอกได้เลยว่าดีมากๆ กับคนที่วางแผนอยากจะเป็น PR ในออสเตรเลีย ขอเพียงแค่เราต้องเตรียมภาษาอังกฤษให้ดี เพราะทุกวีซ่า PR ต่างๆ ต้องใช้คะแนนภาษา รวมไปถึงวางแผน ศึกษาแนวทางสาขาอาชีพของตัวเอง หรืออาชีพที่ต้องการทำในอนาคต โดยอิงจาก Skilled occupation list ของออสเตรเลียนะคะ นอกจากนี้เรายังสามารถปรึกษาไมเกั่นเอเจ้นท์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเริ่มวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆค่ะ

พี่ยาดาคิดว่า เราควรจะต้องเริ่มเตรียมภาษาอังกฤษกันมาจากเมืองไทยเลย อย่างน้อยๆ ให้ได้คะแนน PTE สัก 43 จะเป็นประโยชน์มากๆ ทั้งในการเพิ่มโอกาสได้วีซ่าผ่าน การสมัคเรียน หรือการสื่อสารในชีวิตประจำวัน เทคโนโลยีสมัยนี้ทำให้เราสามารถเรียนและฝึกภาษาได้จากบ้าน อย่ารอให้สายเกินไป เพราะโลกนี้หมุนเร็ว โอกาสเป็นของคนที่พร้อมเสมอนะคะ

.

สนใจเตรียมคะแนนภาษาตั้งแต่อยู่เมืองไทย ลองแอดไลน์ไปปรึกษาเจ้าหน้าที่ทีม PTE ได้ฟรีที่👉 @pteplusthailand มีเจ้าหน้าที่คนไทย พร้อมให้คำแนะนำและให้เราทดสอบวัดพื้นฐานภาษาฟรีค่ะ

.

เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ😊

พี่ยาดา💚