👉วันนี้พี่ยาดาจะมาวิเคราะห์ให้เข้าใจกัน เกี่ยวกับเหตุผลยอดฮิตของการโดนปฏิเสธวีซ่า ไม่ว่าจะเป็นวีซ่านักเรียน วีซ่าท่องเที่ยว หรือแม้แต่วีซ่าทำงานชั่วคราวบางประเภท เหตุผลนั้นคือ “กลัวผู้สมัครจะไม่กลับไทย” เหตุผลนี้น่าจะเกิดขึ้นเมื่อผู้พิจารณาเคสต้องการป้องกันไม่ให้มี Unlawful non-citizen หรือผู้ที่อยู่ในออสเตรเลียอย่างผิดกฏหมายเพราะไม่มีวีซ่าเพิ่มมากขึ้น

.

โดยเค้าจะพิจารณาจากสามปัจจัยหลักคือ หน้าที่การงาน (และเงินเดือน) ทรัพย์สินที่มูลค่าสูงได้แก่ บ้านและที่ดิน และจำนวนสมาชิกในครอบครัว

.

1. หน้าที่การงาน (และเงินเดือน) เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในมุมมองของพี่ยาดา เพราะมันพิสูจน์ได้ว่าเรามีความมั่นคงและไม่ได้ต้องการใช้วีซ่ามาออสเตรเลียเพื่อมาหาเงิน เพราะหน้าที่การงานที่ไทยเราดี เงินเดือนสูง ทำงานมานาน ตำแหน่งสูง มีความมั่นคงดีอยู่แล้ว ใครที่ไม่เป็นตามนี้ก็อาจจะได้วีซ่ายากขึ้นโดยเฉพาะวีซ่าท่องเที่ยวหรือวีซ่ามาทำงานชั่วคราวต่างๆค่ะ เพราะเค้าก็จะมองว่าเมื่อเรามาแล้ว เราจะอยากทำงานที่นี่ต่อเพราะรายได้ที่นี่ดีกว่านั่นเอง จุดนี้พี่ยาดาจึมองว่าเป็นจุดสำคัญมากๆค่ะ

2. ทรัพย์สิน บ้าน ที่ดิน คอนโด ตรงนี้ก็สำคัญ เพราะมันแสดงถึง economic tie ของเราและความมั่นคง คล้ายกับเหตุผลข้อ 1 เลยค่ะ

3. สมาชิกในครอบครัว พูดง่ายๆ ถ้าเหลือสมาชิกในครอบครัวไม่กี่คนที่เมืองไทย เช่นแค่คนเดียว อันนี้ผู้พิจารณาก็จะมองว่าเราอาจะไม่กลับไทยค่ะ แต่ถ้าครอบครัวเราทั้งหมดอยู่ที่ไทยก็จะเพิ่มน้ำหนักให้เคสเรามากขึ้น

.

👉ในส่วนที่ว่า เรามีสมาชิกที่ป่วยที่ต้องดูแล อันนี้อาจจะเป็นดาบสองคมขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ เพราะหากมองว่ามันเป็น tie ที่จะให้เรากลับก็ได้ แต่หากเจ้าหน้าที่จะมองว่าเป็นเงื่อนไขให้เราต้องดิ้นรนมาหาเงินเพิ่มในออสเตรเลีย หรือเกิดทำให้สงสัยว่า ระหว่างที่เรามาออสเตรเลียใครจะดูแลและถ้าเรามีคนไปดูแลให้ เราก็อาจจะไม่จำเป็นต้องกลับไปดูแลเอง อันนี้อาจจะต้องระวังและพิจารณาให้ดีก่อนชี้แจงไปนะคะ เพราะท้ายที่สุด มันอยู่ที่ดุลยพินิจของผู้พิจารณาเคสแต่ละคนจริงๆค่ะ

.

นอกจากนี้บางเคสโดนปฏิเสธหลังจากที่ผู้พิจารณาโทรสัมภาษณ์ เพราะเมื่อสักถามแล้วเราอาจจะทำให้ผู้พิจารณารู้สึกไม่มั่นใจว่าเราจะกลับไทยก็มีค่ะ เช่นให้คำตอบเรื่องแผนการในอนาคตไม่ได้หรือชี้แจงเหตุผลของการเดินทางมาออสเตรเลียหรือรายละเอียดไม่ดีพอ ดังนั้นนอกจากการยื่นวีซ่าแล้วและหลักฐานต่างๆแล้ว สิ่งที่ทำได้คืออย่าลืมเตรียมตัวเผื่อเจ้าหน้าที่โทรสัมภาษณ์ด้วยนะคะ เพราะตรงนั้นจะเป็นจุดตัดสินเลยว่าเราจะโน้มน้าวให้เจ้าหน้าที่เข้าใจวัตถุประสงค์และแผนการของเราได้มากน้อยแค่ไหนค่ะ

.

อย่างไรก็ดีพี่ยาดาเชื่อว่าถ้าเราเข้าใจเงื่อนไขและความเสี่ยง และเตรียมตัวให้พร้อม ให้ดีที่สุด ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้วีซ่าเราผ่านได้มากขึ้นค่ะ อย่าลืมว่า “คุณสมบัติของเรา” คือสิ่งสำคัญนะคะและสิ่งนี้ไม่ว่าเอเจ้นท์จะเก่งแค่ไหนก็ไม่สามารถ make มันขึ้นมาได้ เพราะมันคือตัวเราและคือ fact ที่ต้องแจ้งไปค่ะ อ่อ! ที่สำคัญอย่าลืมเตรียมเรื่องภาษาอังกฤษกันด้วยนะคะ สำหรับใครที่จะยื่นวีซ่านักเรียน เพราะโอกาสเป็นของคนที่พร้อมเสมอค้า💚😊

.

โชคดีทุกคนค่ะ💚💚

.

📌 สนใจอยากเรียนต่อ หรือทำงานในออสเตรเลีย ประเทศแห่งโอกาส สามารถแอดไลน์👉 @Edenstudentservice เพื่อสอบถามรายละเอียดและรับคำปรึกษาฟรีวันนี้เลยค่ะ